นายกฯตั้ง’ชาญเชาวน์’นั่งประธานกก.แก้บ่อนการพนันทำให้แพร่ระบาดโควิด
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 9/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนัน เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
คำสั่งดังกล่าวมีเนื้อหาสรุปว่า ตามที่ปรากฏว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ผลการสอบสวนโรคเชื่อว่าเหตุสำคัญของการแพร่ระบาดครั้งนี้ประการหนึ่งเกิดจากการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคลที่เข้าชุมนุมมั่วสุมโดยเฉพาะสถานที่เล่นการพนัน แม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิด แต่ช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งนับเป็นความเสี่ยงร้ายแรง สมควรให้มีคณะกรมการตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายในภาพรวมอีกระดับหนึ่ง และติดตามดูแลการทำงานทั้งระบบตลอดจนประสานงาน ให้คำแนะนำการดำเนินการแก่เจ้าหน้าที่ในการป้องกัน ปราบปราม และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ วางมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงตามกฎหมายนั้นก็ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะถือเป็นความผิดทั้งทางวินัยและทางอาญา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯจึงมีคำสั่ง ให้มีคณะกรมกาตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกอบด้วย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน คณะกรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับมอบหมาย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ได้รับมอบหมาย จเรตำรวจ ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมการปกครอง ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้รับมอบหมาย ให้ รองเลขาธิการ ปปท. ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้นายจารุเดช บุญญสิทธิ์ และ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปท. เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สั่งรายงานนายกฯทุก 30 วัน
คำสั่งระบุด้วยว่า ให้คณะกรรการ มีอำนาจตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับกรเปิดสถานที่เล่นการพนันจนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ ประสานงาน ตลอดจนให้คำแนะนำการดำเนินการแก่เจ้าหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำผิดไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษ และเสนอมาตรการป้องกันหรือการดำเนินการอื่นที่เหมาะสมโดยให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และประสานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลรวมทั้งการรับเรื่องร้องเรียนชี้เบาะแสจากประชาชน แล้วรายงานทางลับให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการตามความจำเป็นหรือทุกรอบ 30 วันวัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 14 ม.ค.