อย่าให้อายเชื้อโรค – ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง
อย่าให้อายเชื้อโรค
ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวกาญจนบุรี
ปัจจุบันนานาประเทศเผชิญความยากลำบากจากการ ระบาดของไวรัส Covid-19 ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วโลกมีจำนวนเกินหนึ่งล้านคน เสียชีวิตหลายหมื่นคนไปแล้ว สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน การระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้ประชาชนอยู่ในสภาพที่ยากลำบากในการดำรงชีวิตและทำมาหากิน นอกจากนี้การมีอภิสิทธิ์ชนอยู่เหนือกฎหมายของคนบางกลุ่มที่ไม่สนใจหลักนิติรัฐยังซ้ำเติมให้สถานการณ์การแพร่ระบาดให้เลวร้ายยิ่งขึ้น สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทางเศรษฐกิจกันทั้งประเทศ
หลักการสำคัญของนิติรัฐ หรือ the Rule of Law คือ ทุกคนต้องเสมอภาคเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย กล่าวคือ การบังคับใช้กฎหมายต่อบุคคลจะต้องไม่เลือกปฏิบัติเพราะความแตกต่างทางฐานะเศรษฐกิจ อาชีพหรือตำแหน่ง โดยอาศัยระบบกระบวนการยุติธรรมที่ได้มาตรฐานสากลที่สามารถป้องกันการบิดเบือน ทำลายพยานหลักฐานแห่งคดีหรือป้องกันการพิพากษาตามอำเภอใจเพื่อช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ทำให้ผลแห่งการดำเนินคดีมีความแน่นอนตรงไปตรงมาและคาดหมายได้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาไม่สามารถบิดเบือนทำลายพยานหลักฐานนี้ ทำให้บุคคลมีความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมายตามหลักนิติรัฐ
การระบาดของไวรัส Covid-19 ในประเทศไทยทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะมีการปฏิบัติไม่เคารพต่อนิติรัฐในหลากหลายกรณี เช่น เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงไม่ยอมกักตัวและปฏิบัติตามหลักการเฝ้าระวัง ไม่สนใจคำสั่งห้ามจัดการแข่งขันกีฬาและจัดการแข่งขันชกมวยโดยฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคระบาด เพราะมีตำแหน่งใหญ่ มีอภิสิทธิ์ จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมั่นใจว่าสามารถให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายละเว้นการบังคับใช้กฎหมายหรือบิดเบือนพยานหลักฐานให้ตนพ้นความรับผิดได้ เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 จากสนามมวยไปทั่ว ทำให้คนไทยเดือดร้อนยากลำบากล้มตายไปทั่วประเทศ
นักการเมืองมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เป็นผู้รักษากฎหมายแต่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย กักตุนหน้ากากอนามัยป้องกันโรคและแอลกอฮอล์แล้วนำไปส่งออกขายทำกำไรเข้ากระเป๋าอย่างเลือดเย็น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนต้องประสบภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ ทั้งหน้ากากป้องกันไวรัสและแอลกอฮอล์ทำความสะอาด และสร้างความเดือดร้อนสาหัสแก่ประชาชนทั้งประเทศ ผู้มีอำนาจกล้าทำผิดกฎหมายเสียเองเพราะมั่นใจว่ามีอำนาจสามารถสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายละเว้นการดำเนินคดีหรือบิดเบือนทำลายพยานหลักฐานให้ตนพ้นความรับผิดได้ จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายในการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายแต่อย่างใด
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสจะส่งผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงในชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างรุนแรงเพียงใด แต่ไวรัส Covid-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยเลย แม้ประเทศไทยจะประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณสำหรับจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์สำหรับช่วยชีวิตประชาชนเพียงใด แต่มีการเสนอของบประมาณซื้ออาวุธเป็นจำนวนเงินมหาศาล ในขณะที่ประชาชนจะตกงานขาดแคลนรายได้ที่จะซื้อหาอาหารดำรงชีพ คนที่อ้างตัวเป็นชนชั้นนำของประเทศกลับรับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนมีรายได้ 2-3 ทางในเวลาเดียวกันมาหลายปีแบบไร้ความละอาย การจะเป็นผู้นำในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันนั้นจึงต้องเคารพหลักการ “นิติรัฐ” และปฏิบัติตนสุจริตให้เห็นเป็นตัวอย่างแก่ข้าราชการและประชาชนเสียก่อน
กรณีล่าสุดคนไทย 158 คนเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาไม่ยอมกักตัวป้องกันโรคระบาดตามคำสั่งด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 158 คน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ที่ไม่เคารพกฎหมายสั่งให้ปล่อยคนไทยจำนวน 10 กว่าคนเข้าประเทศโดยไม่กักกัน ทำให้ที่เหลือ 100 กว่าคนโวยวายและไม่ยอมรับการปฏิบัติที่ไม่เสมอภาค จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ไม่อาจจะควบคุมสถานการณ์จำต้องไปปล่อยทุกคนเข้าประเทศโดยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการกักตัวเพื่อควบคุมโรคระบาด และไม่ทราบได้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะไปแพร่เชื้อไวรัสสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอีกเท่าไร
การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ครั้งนี้ สร้างบทเรียนให้คนไทยได้เรียนรู้ว่า บุคคลที่เรียกตัวเองว่าเป็นบุคคลชั้นนำของประเทศคือกลุ่มบุคคลที่สามารถทำลายหลัก “นิติรัฐ” สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่องบประมาณแผ่นดิน คนไทยต้องตระหนักถึงความเลวร้ายของการที่ประเทศไทยไม่มี “นิติรัฐ” ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต อาชีพ เศรษฐกิจของประเทศ การป้องกันรักษาชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยจากวิกฤติโรคระบาด จึงต้องรักษา “นิติรัฐ” ไว้ให้ได้ โดยการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดเสมอภาคกัน กล่าวคือ ไม่ว่าจะแตกต่างกันในยศ ฐานะ บรรดาศักดิ์ หรือยากดีมีจน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างเสมอภาคกันทุกคน
ดังนั้น กฎหมายไทยจะต้องสร้างระบบตรวจสอบที่จะควบคุมให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายไม่สามารถบิดเบือน ทำลายพยานหลักฐานแห่งคดี เพื่อละเว้นช่วยเหลือให้ใครพ้นความรับผิดหรือสร้างหลักฐานเท็จยัดข้อหาใครได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคตรงไปตรงมา
ไม่ให้อายเชื้อโรคหรือไวรัส Covid-19 เพราะเชื้อโรคหรือไวรัสไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหรือตำแหน่งใด ทุกคนอาจติดเชื้อได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน.