สิ่งที่ ‘อนุทิน’ ควรทำคือ จับ ‘แก๊งแหกคุก’ ชั้น 14

สิ่งที่ ‘อนุทิน’ ควรทำคือ จับ ‘แก๊งแหกคุก’ ชั้น 14
พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยว่า นายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ได้รับโทษจำคุกฐานทุจริตต่อหน้าที่ตามที่ศาลได้พิพากษาไว้เป็นเวลา 8 ปี และให้กรมราชทัณฑ์ผู้มีหน้าที่ควบคุมตัวกลับไปรับโทษจำคุกให้ครบระยะเวลาหนึ่งปีตามที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษนั้น
ปัญหาที่ตามมาจากคำวินิจฉัยดังกล่าวก็คือ ยังมีข้าราชการผู้ใหญ่หลายฝ่ายที่ได้ช่วยนักโทษชายทักษิณ ‘แหกคุก’ โดยนำไปตอนดึก นอนที่ห้อง VIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 6 เดือน
โดยเสแสร้งแกล้งทำเป็น ป่วยวิกฤต ต้องได้รับการช่วยชีวิตโดยแพทย์นอกเรือนจำอย่างเร่งด่วน ซึ่งแท้จริงเป็นความเท็จที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วทั้งสิ้น!
ปัญหาจึงบานปลายกลายเป็นเรื่อง ‘การแหกคุก‘ แบบพิสดาร โดยมีข้าราชการหลายหน่วยหลายระดับได้เข้าไปช่วยเหลือร่วมกระทำความผิดทางอาญาฐานทุจริตต่อหน้าที่มากมาย
รวมทั้ง น.ช.ทักษิณ ที่ถือเป็น ผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ต้องรับโทษสองในสามด้วย!
ผู้กระทำผิดมีตั้งแต่แพทย์ พยาบาล และผู้บัญชาการเรือนจำ รวมทั้งแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และ ผบ.ตร. ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไปยันอธิบดีกรมราชทัณฑ์และรัฐมนตรี
หรือแม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี ที่ไม่กำกับดูแลให้การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหลายคนรู้อยู่แก่ใจดีว่าการกระทำเช่นนั้น เป็นการปฏิบัติที่มิชอบเป็นความผิดอาญา
ทั้งหมดล้วนคือ ‘กระบวนการสมคบคิด’ กันทุจริตต่อหน้าที่ ช่วย น.ช.ทักษิณ ‘แหกคุก’
โดยไม่ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเช่นนักโทษทั่วไปอีกหลายแสนคนที่ต้องทนอยู่ในระเบียบและกฎเกณฑ์ของทางราชการ!
เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมของชาติลงอย่างย่อยยับ
แม้ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่จะเป็นคดีที่ ป.ป.ช.รับผิดชอบ แต่ ผบ.ตร.และนายกรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่ต้องรีบสอบสวนดำเนินการทางวินัยด้วยการลงโทษไล่ออกหรือปลดทุกคนออกจากราชการได้
ไม่ต้องรอผลคดีจาก ป.ป.ช.ให้เสียเวลา เพราะถือว่าการกระทำได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการและประชาชนอย่างร้ายแรง และพยานหลักฐานปรากฏชัด
ส่วนความผิดทางอาญา ประธาน ป.ป.ช.ก็ควรเร่งสอบสวนส่งให้อัยการฟ้องคดีต่อศาลอาญาทุจริตแจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็วที่สุดในเวลาไม่น่าจะเกินสามเดือน
ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดระยะเวลาสามปีหรือแม้กระทั่งสองปี ตามที่กฎหมายบัญญัติหรือพูดไว้แต่อย่างใด
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ : ฉบับวันที่ 15 ก.ย. 2568
