‘โควิด’ระบาดจากต่างด้าวหนีเข้าเมืองและ’บ่อนพนัน’ส่งส่วยตำรวจตามลำดับชั้น

ยุติธรรมวิวัฒน์

    โควิด ระบาดจากต่างด้าวหนีเข้าเมือง    และ บ่อนพนัน ส่งส่วยตำรวจตามลำดับชั้น

 

                        พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร 

 

สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ที่กระจายไป เกือบสี่สิบจังหวัด ทั่วประเทศ คงจะทำให้ระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการค้าของไทยอยู่ในอาการโคม่า

ประชาชนแต่ละคนซึ่งเปรียบเสมือนคนไข้ต่างหายใจรวยริน ใกล้สิ้นใจเข้าไปทุกที!

ปัญหาที่ นายกรัฐมนตรียังงง อยู่ก็คือ เชื้อร้ายมันเกิดขึ้นและเข้ามาในไทยได้อย่างไร?

ถามผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครในการประชุมทางไกลก็ตอบว่า เป็นเพราะคนต่างด้าวชาวพม่าที่หลบหนีเข้าเมืองมา

นายกฯ ก็อารมณ์เสียขึ้นเสียงดังทันทีว่า รู้แล้วว่าต่างด้าว! แต่ปัญหาคือ แล้วมันเข้ามาถึงจังหวัดสมุทรสาครได้อย่างไร?

ถึงตอนนี้ ผวจ.ก็เกิดอาการอึกอักตอบไม่ได้!

เพราะตามกฎหมายและในความเป็นจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดประเทศไทยไม่ได้มีอำนาจอะไรในการ ควบคุมหรือสั่งผู้บังคับการตำรวจ ให้ทำหน้าที่ตรวจตราป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองตามชายแดน

หรือแม้แต่จังหวัดที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบที่เรียกกันมาแต่โบราณว่าเป็น เจ้าเมือง แต่อย่างใด!

ทุกฝ่ายแม้กระทั่ง ผบ.ทบ. ก็แก้ตัวว่า ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับเพื่อนบ้านรวมกว่า 2,500 กิโลเมตร มีช่องทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวสามารถเดินเข้ามาได้อย่างสบายมากมาย เกินวิสัยที่จะควบคุมหรือป้องกันได้ทั้งหมด?

ช่องทางธรรมชาติที่ว่านั้น อันที่จริงแต่ละจังหวัดไม่ได้มีมากมายเหลือคณานับอย่างที่บางคนพูดแต่อย่างใด?

ความยาว 2,500 กิโลเมตรของเขตแดน ส่วนใหญ่ก็เป็นป่าเขาที่มนุษย์แม้กระทั่งสัตว์สี่ขาก็ปีนข้ามมาไม่ได้หรือยากลำบาก

แต่ละคนจึงล้วนแต่ใช้ช่องทางที่สะดวกซึ่ง มีอยู่ไม่กี่จุดเท่านั้น ซึ่งตำรวจในพื้นที่ก็รู้ดีกันแทบทุกคน

และแม้เมื่อลักลอบข้ามเขตแดนมาได้ เป้าหมายในการเดินทางไม่ว่าจะเป็นสมุทรสาครหรือกรุงเทพมหานคร

ก็ล้วนต้องอาศัย รถยนต์แล่นไปบนถนนสายหลักซึ่งแทบทุกจังหวัด มีอยู่เพียงเส้นทางเดียว แทบทั้งสิ้น

ในขณะเดียวกันก็เป็นที่รู้กันว่า เป็นทำเลหากินของตำรวจ ที่ ตั้งด่าน อยู่มากมายในพื้นที่แต่ละสถานีและจังหวัดนั้นด้วย

กรณีบางรายที่ไม่ได้เคลียร์แต่ถูกตรวจพบโดยบังเอิญแล้ว ส่วนใหญ่ก็พูดเจรจาตกลงกันเป็นรายๆ ไปตามกำลังความสามารถในการจ่ายและอัธยาศัย

เงินที่เก็บรวมได้ในแต่ละเดือน ผู้รับผิดชอบก็มีหน้าที่ส่งส่วยไปตามลำดับชั้นตั้งแต่สถานี กองบังคับการ และกองบัญชาการ ในรูปแบบต่างๆ สารพัด

เป็นเรื่องที่ตำรวจและประชาชนคนไทยทั้งประเทศรู้กันมานานหลายสิบปี!

ตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจและหัวหน้าตำรวจจังหวัดที่มีเขตแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้  จึงราคาแพงกว่าพื้นที่ชั้นในหลายอำเภอและจังหวัดอย่างมาก

ฉะนั้น ถ้านายกฯ อยากรู้ว่าคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเหล่านี้ซึ่งมีอยู่ในแต่ละอำเภอและจังหวัดมากมายหลายแสนหรือหลายล้านคนเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้อย่างไร?

คนที่ควรตอบก็คือผู้บังคับการและผู้บัญชาการตำรวจผู้รับผิดชอบพื้นที่ทุกระดับทุกคน

ซึ่งถ้าแต่ละคนไม่มี พฤติการณ์รับส่วยสินบน รายเดือนจากตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา และทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมให้มีการตรวจป้องกันด้วยความสุจริต พบการกระทำผิดเป็นอันจับดำเนินคดีไม่มีเว้นใคร

คนต่างด้าวจะหลบหนีเข้าเมืองไปถึงจังหวัดสมุทรสาครหรือแม้กระทั่งกรุงเทพมหานครได้อย่างไร?

ฉะนั้น การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากคนชั่วและคนเห็นแก่ตัว?

โดยไปตั้งคำถามกับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด

จึงทำให้ไม่สามารถตอบได้ว่า พวกคนต่างด้าวหลายเชื้อชาติหลบหนีเข้าเมืองมาทางไหนและด้วยวิธีการอย่างไร จ่ายเงินให้ใครในแต่ละหน่วยไปเท่าใด?

ในสถานการณ์ของโรคระบาด อำนาจ ผวจ.ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ก็มีแค่เพียงออกข้อห้ามโน่นนี่เท่านั้น

ส่วนการรักษากฎหมายในการตรวจตราจับกุมผู้ฝ่าฝืน
หัวหน้าตำรวจจังหวัดและสถานีจะสนใจปฏิบัติหรือไม่  ถือเป็นความสำนึกรับผิดชอบและอัธยาศัยของแต่ละคน

เพราะ ผวจ.ทุกจังหวัดในประเทศไทย ไม่มีใครสามารถสั่งการหรือควบคุมอะไร ผบก.ตำรวจได้แม้แต่น้อยอย่างที่กล่าวไว้

นอกจากนั้น ที่สำคัญท่านนายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่า ใน การประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดและอำเภอ ในแต่ละเดือน

ผบก. และ ผกก.ทั่วประเทศกว่าร้อยละ 90 ไม่ได้เข้าประชุมกับ ผวจ.และนายอำเภอด้วยตัวเองเลย!

เนื่องจากไม่ต้องการรับรู้ปัญหาที่ผู้ว่าฯ นายอำเภอหรือหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ถามหรือพูดขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งตนเองตอบหรืออธิบายไม่ได้!

เลยใช้วิธีส่งตำรวจระดับรองหรือแม้กระทั่ง ผกก.อก หรือ สว.ไปประชุมแทน

เมื่อรัฐบาลปล่อยให้ระบบการบริหารงานในจังหวัดและอำเภออยู่ในสภาพที่วิปริต ขาดเอกภาพในการบังคับบัญชาด้วยอำนาจของผู้ว่าฯ และนายอำเภอผู้เป็นหัวหน้าข้าราชการสูงสุดในจังหวัดและอำเภอ เช่นนี้

จึงมีปัญหาเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่มากมายสารพัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

เช่น ปัญหาในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ผู้ว่าฯ ต้องการใช้พื้นที่เหมาะสมเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ยินยอม

โดยไม่เห็นการปฏิบัติอย่างจริงจังของหัวหน้าตำรวจผู้รับผิดชอบไม่ว่าระดับใดเพื่อให้จังหวัดสามารถดำเนินการได้แต่อย่างใด!

หรืออย่างในกรณีจังหวัดระยองที่มีรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อจากบ่อนการพนันใหญ่ในตัวเมืองถึง 85 คน!

 ส่วนที่จังหวัดชลบุรี สาธารณสุขจังหวัดก็ได้มีการออกประกาศเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.63 ให้ผู้ที่ไปใน บ่อนในเขตอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมทั้ง บ่อนพัทยาเหนือ  อำเภอบางละมุง เฝ้าดูอาการและรีบกักตัวเองไว้ รวมทั้งให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อ โดยด่วน

ส่งผลทำให้ตำรวจผู้ใหญ่ผู้รับผิดชอบหลายระดับตาลีตาเหลือก!

รีบออกคำสั่ง ตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีบ่อนพนันจริงตามที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีประกาศหรือไม่?

และใครหรือตำรวจระดับใดเป็นผู้รับผิดชอบ รับส่วยสินบนหรือบกพร่องต่อหน้าที่?

เพื่อจะได้ ดำเนินคดีอาญาและลงโทษทางวินัย ไม่มีเลี้ยง

หลอกนายกรัฐมนตรีและประชาชน ไปวันๆ กันตามสูตร?.

โควิด

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์  คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 28 ธ.ค. 2563

About The Author