‘คำนูณ’ขอนายกฯส่งร่างพรบ.ปฏิรูปตำรวจฉบับ’มีชัย’เข้ารัฐสภาเป็นของขวัญปีใหม่

 

เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2564 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้

ถ้าจะให้เลือกขออะไรสักอย่างจากท่านนายกรัฐมนตรีในช่วงปีใหม่ 2564 นี้

จะเลือกขอเรื่องปฏิรูปตำรวจ

ขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งส่งร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ (ฉบับท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์) มายังรัฐสภาให้ทันพิจารณาวาระ 1 ภายในสมัยประชุมนี้ที่จะปิดลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 นั่นหมายถึงว่าจะต้องส่งเข้ามาตั้งแต่ภายในกลางเดือนมกราคม 2564 จึงจะพอมีโอกาสได้บรรจุระเบียบวาระพิจารณาได้ทัน แม้จะยาก เพราะโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรกอีกครั้ง แต่ก็ต้องขอกันอย่างตรงไปตรงมาเพราะนี่คือรากฐานสำคัญของการปฏิรูปประเทศ

เราต้องการให้กฎหมายเป็นกฎหมายใช่มั้ย ?

เราต้องการให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพใช่มั้ย ?

เราต้องการให้ประชาชนทุกคนทุกหมู่เหล่าทุกสถานะได้รับบริการทางกฎหมายและคดีความอย่างเท่าเทียมกันมากที่สุดใช่มั้ย ?

เราไม่ต้องการได้ยินประโยคที่พูดต่อ ๆ กันมาว่า ‘เมียทหารนับขวด-เมียตำรวจนับแบงก์’ หรือ ‘ทหาร-นายเลี้ยงลูกน้อง ตำรวจ-ลูกน้องเลี้ยงนาย’ อีกแล้วใช่มั้ย ?

เราไม่ต้องการเห็นคดีความแบบ ‘บอส อยู่วิทยา’ ใช่มั้ย ?

เราไม่ต้องการได้ยินวาทะประมาณว่า ‘ที่นี่ไม่มีบ่อนมีแต่ลักลอบเล่นการพนัน’ ใช่มั้ย ?

ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ตอบโจทย์ได้ เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญของร่างนี้คือการทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเกิดความเป็นธรรมยิ่งขึ้น โดยออกแบบสร้างระบบคะแนนประจำตัวให้นายตำรวจทุกคน ถ่วงน้ำหนักระหว่างอาวุโส ความรู้ความสามารถ และความพึงพอใจของประชาชน ในอัตราส่วน 45 – 25 – 30 ทุกคนจะมีคะแนนประจำตัวเรียงลำดับไว้ ระบบนี้จะทำให้การวิ่งเต้นเสนออามิสตอบแทนเป็นไปได้ยากขึ้น แม้ไม่หมดไปแต่ก็น่าจะน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

พูดง่าย ๆ คือร่างนี้มุ่งขจัดและป้องกันการซื้อขายตำแหน่งที่มีข่าวกล่าวหากันมาตลอด

ด้วยหวังว่าเมื่อตำรวจเติบโตมีตำแหน่งไปตามอาวุโส ด้วยผลงาน ความรู้ความสามารถ และความพึงพอใจจากประชาชน ไม่ต้องเสียเวลาไปเอาใจนายเกินกว่าหน้าที่การงาน ไม่ต้องเสียเวลาไปวิ่งเต้นหรือให้ใครช่วยวิ่งเต้นให้ และแน่นอนว่าไม่ต้องหาเงินหาทองมาเพื่อการได้มีตำแหน่งแห่งที่สำคัญ ๆ สังคมไทยก็จะได้ตำรวจที่มุ่งทุ่มเททำงานตามตำแหน่งหน้าที่เป็นหลัก ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น

เพราะเมื่อไม่ต้องวิ่งเต้นไม่ต้องลงทุนกับตำแหน่ง ก็ไม่ต้องถอนทุน ธุรกิจสีดำหรือสีเทาก็จะดำรงอยู่ได้ยากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่เป็นแหล่งสำหรับถอนทุนอีกต่อไป

หัวใจสำคัญของร่างนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง (4)

“มีหลักประกันว่าข้าราชการตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย และการพิจารณาบำเหน็จความชอบตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจน ซึ่งในการพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน…”

ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ยังสร้างระบบใหม่รายล้อมการแต่งตั้งโยกย้ายด้วยระบบถ่วงน้ำหนัก 45-25-30 อีกมากมายหลายประการที่เป็นการปฏิรูปใหญ่ อาทิ สร้างระบบการร้องเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยให้มีสัดส่วนคนนอกองค์กรตำรวจเข้ามามีส่วนร่วมพิจารณา การให้บอร์ดบริหารขององค์กรตำรวจมีสัดส่วนมาจากคนนอกองค์การมากขึ้น หรือแม้แต่ให้บอร์ดบริหารส่วนที่มาจากอดีตข้าราชการตำรวจที่มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจนั้นขยายผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงไปเป็นข้าราชการสัญญาบัตรทุกคนไม่ใช่เฉพาะจากผู้มีตำแหน่งระดับใดระดับหนึ่งขึ้นไปเท่านั้น

รวมทั้งให้ตำรวจสายสอบสวนมีสายงานบังคับบัญชาโดยเฉพาะของตนเอง

และให้กระจายอำนาจบางประการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานตำรวจแท้ออกไปให้องค์กรอื่นอย่างมีขั้นตอน

ฯลฯ

ยังมีอีกมากที่เคยเล่าสู่กันฟังไปหลายครั้งแล้วตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์แน่นอนว่าไม่สมบูรณ์ทั้งหมด แต่หลักการพื้นฐานโอเค ก็ให้เข้ามาพิจารณาแก้ไขกันในชั้นกรรมาธิการของรัฐสภา อย่าไปฆ่าตัดตอนกันแต่แรก ด้วยการส่งร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับแปลงสารเข้ามา

ขอแค่นี้แหละครับท่านนายกรัฐมนตรี

นายคำนูณ สิทธิสมาน

About The Author