พนักงานสอบสวนฆ่าตัวตาย! นายกฯรู้หรือไม่ว่า ปัญหาแท้จริงคืออะไร?
พนักงานสอบสวนฆ่าตัวตาย! นายกฯรู้หรือไม่ว่า ปัญหาแท้จริงคืออะไร?
พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
ในการฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งรัฐได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ได้มีการฉายและจำลองภาพความสำเร็จในการต่อสู้กับศัตรูจักรวรรดินิยมชาติต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในช่วงเวลาร้อยปีที่ผ่านมา
หลักการสำคัญเรื่องหนึ่งซึ่งผู้นำหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองทุกยุคของเขายึดถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันก็คือ “การยึดมั่นต่อความจริง”
เร่งค้นหาสาเหตุของทุกปัญหา และดำเนินการแก้ไขด้วยความจริงใจหรือปฏิรูปปฏิวัติโดยเร็ว
ส่งผลทำให้การแก้ปัญหาทุกเรื่องทุกสิ่งของรัฐจีนประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง สามารถนำพาประเทศให้พ้นจากความอดอยากยากจนมาได้
หนุ่มสาวชาวจีนพากันเดินพาเหรดสู่ความทันสมัย ผู้นำของชาติประกาศท้าทายมหาอำนาจทุกประเทศที่คิดจะเข้ามารังแกเช่นอดีตด้วยคำพูดว่า คนจีนกว่า ๑,๔๐๐ ล้านคน “พร้อมหลั่งเลือดให้บทเรียนแก่ทุกชาติ” ที่คิดจะกระทำเช่นนั้น!
เมื่อหันมามองดูประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองไม่เห็นอนาคตว่าปัญหาต่างๆ สารพัดที่ถูกซุกไว้ จะถูกแก้ไขหรือปฏิรูปเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
เนื่องจากผู้นำของรัฐไทยแทบทุกคน ไม่ได้ถือปรัชญา “ยึดมั่นในความจริง”!
“ความเท็จจึงเป็น “มารดาแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง” ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
เช่นในเรื่องปัญหาตำรวจและการสอบสวน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพอีรุงตุงนังที่รัฐบาลนี้ตั้งแต่ยุคเผด็จการจนกระทั่งมีการเลือกตั้ง ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นดำเนินการศึกษาและปฏิรูปมากมายหลายชุด
“ปล้ำผีลุก ปลุกผีนั่ง” กันมากว่า ๗ ปี!
มีแต่ผลงานการศึกษาและรายงานเป็นกองกระดาษท่วมท้น!
แต่จนกระทั่งป่านนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่านายกรัฐมนตรีจะจัดการหรือดำเนินการปฏิรูปอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมได้แต่อย่างใด?
ในวันที่ ๒ ก.ค. ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. พ.ต.ท.วีรพล บุญยัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ช้างกลาง จว.นครศรีธรรมราช ตำรวจอาวุโสซึ่งมีอายุ ๕๔ ปี คงสิ้นหวัง ไม่ทนรอการปฏิรูปตำรวจและการสอบสวนอะไรอีกต่อไป!
ได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนบราวนิ่ง ๙ มม. จ่อขมับยิงหัวตัวเองในสวนหลังบ้านซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ฉวางนอนหายใจรวยรินอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช จว.นครศรีธรรมราชจนทุกวันนี้
มีข้อมูลว่า พ.ต.ท.วีรพลฯ เป็นตำรวจที่มีความประพฤติดีและสุภาพเรียบร้อยอย่างยิ่ง รู้สึกเบื่อหน่ายต่องานสอบสวนมาหลายปีแล้ว และ ต้องการขอย้ายออกจากตำแหน่งพนักงานสอบสวนไปทำหน้าที่อะไรก็ได้เพื่อให้พ้นๆ จากหน้าที่ในงานสอบสวนไป!
เขาไม่ยอมแม้แต่เข้ารับการประเมินเป็นพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ เทียบเท่า รอง ผกก. เมื่อหลายปีก่อน
โดยหวังว่า ถ้ารอจนเข้าเกณฑ์อาวุโส ๓๓ เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็น รอง ผกก.ที่ไม่ใช่สายสอบสวน โดยไม่ต้องวิ่งเต้นด้วยอะไรกับใครให้เป็นบุญคุณท่วมหัวทั้งสิ้น
แต่เมื่อมีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์อาวุโส ๓๓ เปอร์เซ็นต์เขากลับถูกแต่งตั้งจาก สว.สอบสวน สภ.ไม้เรียง จว.นครศรีธรรมราช ไปเป็น รอง ผกก.สอบสวน สภ.ช้างกลางเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ มีหน้าที่พิมพ์สำนวนและเข้าเวรสอบสวนที่แสนเบื่อหน่ายเช่นเดิม!
ทำให้ความเครียดสะสมตัวขึ้นอย่างมาก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงหัวตัวเองนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ขณะนี้ในที่สุด
และแทบไม่น่าเชื่อว่า ในอีกวันหนึ่งถัดมาก็คือ ในวันที่ ๓ ก.ค. ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๒.๑๕ น. ได้มีผู้พบศพ ร.ต.ท.เด่น ปรักเอโก อายุ ๔๗ ปี ผูกคอตายอยู่ใต้บันไดในบ้านพักราชการตำรวจสภ.เมืองสมุทรสงคราม
ร.ต.ท.เด่นฯ เคยเป็นตำรวจที่เรียกกันอย่างเหยียดหยามว่า “ชั้นประทวน” ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ที่ อ.นางรอง จว.บุรีรัมย์ มาก่อน และพึ่งได้รับการแต่งตั้งเลื่อนเป็นชั้นสัญญาบัตรสายสอบสวนในตำแหน่งดังกล่าวเมื่อสามสี่เดือนที่ผ่านมา
การได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองสารวัตรปฏิบัติงานสอบสวนเวรประจำสถานีเช่นนี้ในขณะที่มีอายุเกือบ ๕๐ ปี และต้องจากครอบครัวไปอยู่อีกซีกหนึ่งของประเทศไทย โดยไม่รู้ว่าจะได้ย้ายกลับไปยังภูมิลำเนาได้เมื่อใด?
ได้ทำให้ ร.ต.ท.เด่นฯ เกิดความเครียดเป็นอย่างมาก ประกอบกับพึ่งรู้ว่า การเป็นพนักงานสอบสวนเวรผู้รับผิดชอบจริงๆ ไม่ใช่งานที่ตนถนัด และอาจเกิดความผิดพลาดเสียหายร้ายแรงที่จะก่อให้เกิดความผิดทางอาญาและวินัยทำให้ต้องถูกไล่ออกปลดออกจากราชการไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญได้
อีกทั้งไม่รู้ว่า อนาคตจะต้องเป็นพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจแห่งนี้ไปอีกนานเท่าใด และโอกาสจะขอย้ายกลับบ้านหรือเปลี่ยนสายงาน ในความเป็นจริง ก็แทบเป็นไปไม่ได้!
และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร.ต.ท.เด่นฯ ตัดสินใจผูกคอตายในที่สุด
ก็ไม่ทราบว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ท่านเป็นผู้รับผิดชอบงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเอง
ได้รับรายงานปัญหาเรื่องที่พนักงานสอบสวนฆ่าตัวตายแทบจะพร้อมกันทั้งสองกรณีนี้หรือไม่?
เนื่องจาก ตำรวจผู้ใหญ่ได้สั่งให้ทุกฝ่ายปิดข่าวเป็นความลับอย่าแพร่งพรายให้ใครรู้เป็นอันขาด!
จะเห็นว่าทั้งสองกรณี ไม่มีสื่อส่วนกลางฉบับหรือสถานีใดได้รับรายงานข่าวจากพื้นที่เลยแม้แต่แห่งเดียว
นักข่าวประจำจังหวัดได้ถูกขอร้องให้ช่วยกันปิดข่าวไว้ ไม่ต้องรายงานให้ส่วนกลางได้รู้ มีอะไรจะให้ช่วยหรือดูแลกันก็บอก!
ขอเรียนว่า ปัญหาตำรวจผู้ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนประเทศไทยฆ่าตัวตายกันเป็นใบไม้ร่วงแค่ในช่วง ๖- ๗ ปีมานี้ น่าจะมีจำนวนรวม๑๔ – ๑๕ คนนั้น
ปัญหาสำคัญไม่ใช่เรื่องเงินน้อยหรือจำนวนคนมีไม่พออย่างที่ตำรวจผู้ใหญ่ได้รายงานต่อท่านแต่อย่างใด
แต่หัวใจของปัญหาอยู่ที่ระบบงานสอบสวนอยู่ภายใต้การปกครองตามชั้นยศและวินัยแบบทหารที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของงานในฐานะเจ้าพนักงานกระบวนการยุติธรรมเช่นอัยการและศาล
ซึ่งทุกหน่วยงานมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและใช้ดุลยพินิจตามหลักนิติธรรม
แต่สำหรับตำรวจผู้เป็นพนักงานสอบสวนที่มียศและระบบวินัยแบบทหาร ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาผู้มียศสูงกว่าอย่างเคร่งครัด
ไม่ว่าคำสั่งนั้นจะขัดกฎหมายหรือไม่ ทุกคนก็ต้องจำใจทำ!
ความเครียดในการปฏิบัติงานจึงมักเกิดกับพนักงานสอบสวนผู้มีความรู้และความสุจริตมากกว่าผู้ที่มีนิสัยทุจริต
ทำให้บางคนต้องตัดสินใจปลิดชีวิตของตนให้พ้นจากสภาพที่ก่อให้เกิดความทุกข์และอาจทำให้ตนเองมีโอกาสติดคุกติดตะรางได้ในที่สุด
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 5 ก.ค. 2564