งามหน้า!’เจ้าแม็กซ์’ยื่นอุทธรณ์เงินเยียวยาหลังศาลยกฟ้องคดียาเสพติดแต่กก.อ้างไม่เข้าเกณฑ์
ที่กระทรวงยุติธรรม วันที่ 2 ก.ย.2563 นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ เจ้าแม็กซ์ อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม อดีตแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย (WBC เอเชีย) รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท ซึ่งถูกจับกุมข้อหาพัวพันยาเสพติด ต้องติดคุกฟรีเกือบ 14 เดือนก่อนศาลยกฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์ และ “น้องออย” น.ส.นลินตา จีรเดชชนดล ภรรยา พร้อมนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ ได้ยื่นร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่ออุทธรณ์พิจารณาเงินเยียวใหม่ หลังถูกปฏิเสธ เนื่องจากในคำพิพากษาของศาลจังหวัดระนอง มีคำวินิจฉัยว่ายกประโยชน์อันควรสงสัยให้แม็กซ์จำเลยในคดีร่วมกันค้ายาเสพติดจึงไม่เข้าเกณฑ์จ่ายเงินเยียวยา
ทั้งนี้นายอัจฉริยะ ได้รับหนังสือ “คำวินิจฉัยคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระนอง ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ กรณี นายอัจฉริยะ กันต์ยศทรงสิริ ได้ยื่นคำขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ
โดยคณะกรรมการฯพิจารณาแล้วเห็นว่า”นายอัจฉริยะ กันต์ยศทรงสิริ (จำเลย) เป็นจำเลยที่ถูกดำเนินคดีโดยพนักงานอัยการและถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี ตามมาตรา ๒๐ (๑) (๒) แต่เมื่อพิจารณาจากคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว เห็นว่า ปรากฏตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ยกฟ้อง เนื่องจกพิจารณาหลักฐานของโจทก์และจำเลย ยังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลย กระทำผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๑ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๒๗ วรรคสองข้อก็จริงฟังไม่เป็นที่ยุติจำเลยมีได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามมาตรา๒๐ (๓) แห่งพระราบัญญัตินี้
จึงเห็นสมควรยกคำขอ อาศัยอำนาจตามความ ในมาตรา ๘ (๑) และวรรคท้ายมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงวินิจฉัยให้ยกคำขอ กรณีที่ผู้ยื่นคำขอไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะอนุกรมการมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัย ตามมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ ๒๒๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเดิม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๙”
นายวรกร กล่าวว่า ใช้ขั้นตอนพิจารณาจ่ายเงินผู้เสียหายในคดีอาญา โดยเฉพาะจำเลยในคดีที่ศาลตัดสินให้พ้นผิด อยากให้เกิดการสอบสวนข้อเท็จจริงตามฟ้อง ไม่ใช่อ่านแต่ท้ายคำสั่ง แล้วจะเห็นว่า แมกซ์ถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่มีมูลความจริง จนต้องเข้าเรือนจำนานถึง 14 เดือน
ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวทั้งน้ำตามว่า ผมและครอบครัวเดือดร้อนถึงที่สุด เพราะระหว่างที่ถูกจำคุกฟรีเกือบ 14 เดือน ภรรยาต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะออย (ภรรยา) นั้นก็ไม่มีงานทำอยู่แล้ว ทุกวันนี้มีแต่โทรศัพท์มาทวงหนี้ทุกวัน ผมไม่เข้าใจชีวิตว่า ผมไปทำบาปกรรมอะไรไว้ ที่อยู่ดีๆก็ติดคุก และเมื่อผมได้รับอิสระ ศาลยกฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว แต่เมื่อไปยื่นขอเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม กลับได้รับคำวินิจฉัยว่า ศาลยกไม่ขาด คือเหมือนกับว่า เหตุที่ศาลยกฟ้อง เพราะยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ไม่ได้บอกว่า จำเลยไม่ได้ไม่กระทำความผิดนะ
“โดยผู้พิพากษาให้เหตุผลว่าเพราะคดีมันใหญ่ ทั้งๆที่ผมก็กล้ายืนยันว่า เป็นผู้บริสุทธิ์และข้อกล่าวหามาจากสาเหตุเรื่องการโอนลอยขายรถยนต์เท่านั้น รวมทั้งผู้ต้องหาที่ให้ปากคำก็ยืนยันด้วยซ้ำว่าไม่รู้จักอะไรกับผมเลย ผมแค่อยากได้ความเป็นธรรม เอาผมไปติดคุก ทำให้ผมหมดอนาคต และสร้างหนี้ให้ผมอีกก้อนโต ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ และไม่ได้แม้เงินเยียวยาสักบาทเดียว”นายอัจฉิรยะกล่าว
ส่วนน.ส.นลินตา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เราเคยโทรไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ก็ไม่มีการรับสายร้องเรียนอะไรเลย ไม่มีการแจ้งความคืบหน้าใดๆให้กับแม็กซ์เลย ทุกวันนี้ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ อย่างบอกสังคมว่า เราลำบากจริงๆได้แต่นั่งมองหน้ากัน ไม่รู้จะไปโทษใคร ทั้งที่เราไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย หลังจากยื่นหนังสืออุทธรณ์ในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะมีการสอบสวนพิจารณากันใหม่ และจะมีหนังสือแจ้งนัดมาอีกครั้ง