อย่ารอให้สายเกินไป!องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันบี้ป.ป.ช.ทำหน้าที่ปกป้อง’ครูอ้อม’ที่กล้าเปิดโปงโกงอาหารกลางวันเด็กจนถูกข่มขู่คุกคาม

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 ดร. มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์ข้อความ เรื่อง ความอ่อนแอของ ป.ป.ช. จากกรณี “ครูอ้อมถูกข่มขู่และสั่งย้าย” ระบุว่า การข่มขู่และสั่งย้ายครูอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ จากการที่เธอ กล้าออกมาเปิดโปงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ได้ตอกย้ำความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของไทย เพราะหลายปีที่ผ่านมา ข่าวครูให้เด็กกินนมโรงเรียนบูด เลี้ยงอาหารกลางวันด้วยขนมจีนคลุกน้ำปลา ไข่พะโล้บูด ต้มฟักวิญญาณไก่ ล้วนเป็นเรื่องน่ารังเกียจที่คนไทยต้องทนฟังซ้ำซาก

พฤติกรรมชั่วร้ายทำนองนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วไป เพียงแต่ส่วนใหญ่ผู้พบเห็นไม่กล้าพูดเพราะกลัวอิทธิพลและการคุกคาม ดังที่ครูอ้อมโดนกระทำอยู่

อันที่จริง การปกป้องคนที่อาสาทำดีเพื่อสังคมนั้นทำได้ หาก ป.ป.ช. ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. มาตรา 131,132,133 มาคุ้มครองคนดีอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนมั่นใจ และกล้าพูดกล้า เปิดเผยกลโกงที่พบเห็น (Whistle blower protection) โดยเริ่มจากกรณีครูอ้อมในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้แจ้งเบาะแส และให้ข้อมูลแก่ ป.ป.ช.

“อย่ารอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาฯ ในการแก้ไขปัญหาภายใน เพราะจะสายเกินไป อย่ารอให้พลังสังคมต้องออกมาเรียกร้องกดดัน แต่ ป.ป.ช. ต้องลงมือทำตามหน้าที่ให้สมกับที่ประชาชนฝากความหวังไว้ทันที”ดร. มานะ นิมิตรมงคล ระบุ

ทั้งนี้ สำหรับ ครูอ้อม เป็นครูสอนนักเรียนชั้นอนุบาลของ รร.วัดวงเดือน อ.หันคา จ.ชัยนาท  ได้ออกมาเปิดเผยว่าอาหารกลางวันของนักเรียนไม่มีคุณภาพ เด็กได้สารอาหารไม่ครบถ้วน บางครั้งต้องกินมาม่า ไม่ได้กินผลไม้หรือของมีประโยชน์เหมือนโรงเรียนอื่น ๆ จนกระทั่งโดนปาเลือดหมูใส่ห้องเรียนเป็นการข่มขู่ และต่อมา สพป.ชัยนาท มีหนังสือเรียกตัว “ครูอ้อม” ไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท ทำให้ผู้ปกครองนักเรียนส่วนหนึ่งไม่พอใจ เรียกร้องให้ย้ายครูอ้อมกลับคืน

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว และข้อมูลที่ได้ก็มีหลายด้าน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยตนได้ส่งคณะทำงานไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาอาหารกลางวัน ที่พยายามแก้ไขอยู่ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนร้องเรียนมา

ด้านนายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การย้ายครูอ้อมออกจากพื้นที่ มีปัญหาเพราะ สพป.ไม่ทำความเข้าใจกับครูอ้อมและชุมชนก่อนว่าที่ย้ายก็เพื่อความปลอดภัยของครูอ้อม แต่เมื่อชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย และครูอ้อมก็ประสงค์จะอยู่โรงเรียนเดิม ประกอบกับประเด็นความขัดแย้งยังไม่จบ ผอ.สพป.จึงมีคำสั่งใหม่ ย้ายครูอ้อมกลับที่เดิม และย้าย ผอ.โรงเรียนไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท แทน แล้วตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น หากผลการตรวจสอบออกมาพบว่าโรงเรียนดำเนินการผิดหลักของโครงการอาหารกลางวันจริง ก็ว่าไปตามเหตุความผิด แต่หากพบว่าครูร้องเท็จ ก็จะมีความผิดฐานรายงานเท็จ

อ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์

ขณะที่ น.ส.อ้อมอารีย์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาสอนเด็กๆ เหมือนเดิม ขอขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด ยืนยันจะสอนเด็กนักเรียนให้ดี เพราะรักเด็ก ๆ นักเรียนทุกคนเหมือนเป็นลูกของตัวเอง

About The Author