หญิงถูกทำอนาจาร ถูกรุมโทรมข่มขืน ทำไมจึงพึ่งตำรวจไม่ได้ ต้องไปชูป้ายในการชุมนุม?

ยุติธรรมวิวัฒน์

                    หญิงถูกทำอนาจาร ถูกรุมโทรมข่มขืน ทำไมจึงพึ่งตำรวจไม่ได้ ต้องไปชูป้ายในการชุมนุม?

 

พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

 

เมื่อวันก่อน มีข่าวชายซึ่งมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าคนหนึ่ง หอบที่นอนหมอนมุ้ง พร้อมรูปถ่ายภรรยา นำมาวางนอน ประท้วงตำรวจ อยู่กลางถนนบริเวณสี่แยกรัชโยธิน

จุดที่รถประจำทางชนและทับเธอตาย! เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา คือวันที่ 15 ต.ค.63

หลังเป็นข่าว ตำรวจ สน.พหลโยธิน ผู้รับผิดชอบการสอบสวนคดีบอกว่า เหตุที่เกิดถือเป็นความประมาทร่วมกันทั้งสองฝ่าย?

ทำให้การดำเนินคดีรวมทั้งการจ่ายเงินชดเชยมีปัญหา  แต่ละฝ่ายโยนกันไปมา

ส่วนจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ก็ควรแสดงพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะใน การตรวจวัตถุพยานและสถานที่เกิดเหตุจุดที่รถชนกัน อย่างละเอียดชัดแจ้ง

อย่างไรก็ตาม ถ้าปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นความประมาททั้งสองฝ่าย

แต่เหตุใด คนขับรถประจำทางที่กระทำประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย

 จึงไม่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีจนกระทั่งป่านนี้?

หญิงถูกทำอนาจาร
 ขอบคุณภาพจาก สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

นี่คือปรากฏการณ์เพียงเรื่องหนึ่งซึ่งสะท้อนปัญหาการสอบสวนคดีอาญาของไทย ที่ถูกปล่อยให้อยู่ในมือของตำรวจเพียงฝ่ายเดียว โดยปราศจากการตรวจสอบจากภายนอกระหว่างสอบสวนอย่างสิ้นเชิง!

นอกจากนั้น ในการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ด้วยการ เลือกตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อทำให้บ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตย ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง

แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ยังคง เล่นเกมยื้อเวลา และไม่แสดงออกถึงความจริงใจ จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่า สุดท้ายสังคมไทยจะหาจุดจบอย่างสงบลงได้อย่างไรนั้น

มีหลายปัญหาที่ผู้เดือดร้อนหลายคนได้ใช้พื้นที่การชุมนุมเรียกร้องความสนใจจากประชาชนและผู้มีอำนาจให้แก้ไข

ไม่ว่าจะเป็นกรณี น้องหมวย ที่แต่งชุดนักเรียนชูป้ายบอกว่า ถูกอาจารย์กระทำอนาจารลวนลาม ในโรงเรียนดังขณะเป็นเด็กเมื่อหลายปีก่อน

และเมื่อเธอนำเรื่องมาเปิดเผย กลับถูกคนบางกลุ่มรุมประณามและตั้งคำถามต่อเธอมากมายว่าถูกกระทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ และเหตุใดจึงเพิ่งมาร้องขอความเป็นธรรมในการชุมนุม!

หญิงถูกทำอนาจาร
ขอบคุณภาพจาก catdumb tv.     

พร้อมช่วยกันขุดประวัติว่า ปัจจุบันไม่ใช่นักเรียนแล้ว แต่เป็นพริตตี้หรือนางแบบผู้มีพฤติกรรมที่ไม่เรียบร้อยเช่น กุลสตรีไทย ทั่วไป?

บ้างก็บอกจะไปแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหา   นำเครื่องแบบนักเรียนมาใส่โดยไม่ได้รับอนุญาต!

ซึ่งหลังเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้ก็ไม่มีใครทราบว่า การกระทำความผิดอาญาข้อหากระทำอนาจาร ดังกล่าวที่เกิดขึ้นมานานประมาณห้าปี ผู้รับผิดชอบทั้งโรงเรียนดัง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคำตอบต่อเธอและสังคมว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะจัดการตามกฎหมายต่ออาจารย์ผู้ลวนลามเธอคนนั้นอย่างไร?

อีกกรณีคือมีหญิงสาวนักศึกษาคนหนึ่งยืนถือป้ายและให้ข้อมูลกับสื่อว่า ถูกชายโฉดที่รู้จักกันคนหนึ่งหลอกจ้างไปถ่ายแบบ แต่สุดท้ายได้ถูกข่มขืนรวมทั้งให้พรรคพวกอีก 7 คนมารุมโทรมเธอ!

พร้อมนำตัวไป กักขังหน่วงเหนี่ยว ไว้ในสถานที่ต่างๆ อีกหลายวัน

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.63 ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอบางกรวย

หลังเกิดเหตุ เธอ ยอมตากหน้า เดินขึ้นไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจบางกรวย แต่จนป่านนี้ ชายโฉดที่หลอกเธอไป

ถ่ายแบบแล้วให้พรรคพวกรุมข่มขืนก็ ยังเดินลอยนวลอยู่ทุกคน!

ด้วยความเจ็บช้ำใจ และมองไม่เห็นหนทางว่าจะพึ่ง ใครหรือหน่วยงานใด ได้ ทำให้เธอต้องยอม ตากหน้าอีกครั้งด้วยการไปยืนถือป้ายในที่ชุมนุมด้วยข้อความว่า  ช่วยหนูด้วย! หนูถูกรุมโทรม 7 ต่อ 1

พร้อมแสดงบันทึกประจำวันการแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ข่มขืนเธอทุกคน

หญิงถูกทำอนาจาร

ขอบคุณภาพจาก Mgronline.com

ต่อปัญหาหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำอนาจารหรือข่มขืนซึ่งเกิดขึ้นทั่วไทยมากมายในทุกวันนี้

มีผู้คนแม้กระทั่งนักวิชาการโง่จำนวนมาก มักวิพากษ์วิจารณ์ว่าหญิงผู้ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมเอง

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายล่อแหลม หรือไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปลี่ยวหรือดึกๆ ดื่นๆ

เมื่อถูกกระทำอนาจารหรือข่มขืน ก็สมน้ำหน้าแล้ว!

สำนึกรวมทั้งความคิดเรื่องสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ของ คนเหล่านี้ ถือว่ามีปัญหาอย่างร้ายแรง

หญิงทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจน อยู่ในสถานะใด จะร่วมหลับนอนหรือมีเพศสัมพันธ์กับใครในสถานที่ส่วนตัวแห่งใดก็ได้ตราบเท่าที่เป็นไปด้วยความเต็มใจอย่างแท้จริงมิใช่หรือ

ปัญหาอาชญากรรมทางเพศ จึงไม่ใช่เรื่องหญิงนั้นมีอาชีพอะไร หรือแต่งตัวและประพฤติตัวล่อแหลมอย่างไร ที่ทำให้ผู้ชายหลอกล่อพาไปข่มขืนและแม้กระทั่ง รุมโทรม  ได้

แต่อยู่ที่ ระบบงานรักษากฎหมายของชาติ มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดใน การสอบสวนดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดต่างหาก

อย่างกรณีของหญิงสาวผู้ชูป้ายคนนี้ที่ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางกรวย ว่าถูกข่มขืนจาก ชายผู้รู้จักกันคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้วางแผนหลอกว่าจ้างให้เธอไปถ่ายแบบในโรงแรม แต่สุดท้ายกลับใช้กำลังข่มขืนพร้อมทั้งให้เพื่อนอีก 7 คนมารุมโทรมเธอกรณีนี้

ทันทีที่รับแจ้งความพร้อมสอบปากคำเธอไว้ทั้งในฐานะ ผู้เสียหายและพยาน อย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ลงบันทึกประจำวัน ออกเลขคดีอาญาไว้

ไม่ใช่ทำเพียงลงบันทึกรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและจะได้ดำเนินการสอบสวนต่อไปตามที่ตำรวจผู้ใหญ่สั่งเอาไว้เช่นทุกวันนี้! 

ขั้นตอนต่อไปก็คือ การตรวจสอบว่าชายทรชนคนดังกล่าวคือใคร มีชื่อที่อยู่และบ้านพักหรือที่ทำงานสถานที่ใด

หลังจากนั้นก็สามารถ ออกหมายเรียก ให้มารับทราบข้อหาดำเนินคดี สอบปากคำสืบสาวไปถึงผู้ร่วมกระทำผิดออกหมายเรียกอีก 7 คนเป็นผู้ต้องหาได้ทันที

ตำรวจไม่มีหน้าที่ตั้งคำถามหรือข้อสันนิษฐานและแม้กระทั่งข้อสงสัยอะไรว่า การที่หญิงสาวยอมเข้าไปถ่ายแบบในโรงแรม ก็น่าจะถือว่าเป็นพฤติการณ์สมัครใจในการมีเพศสัมพันธ์กับชายคนนั้น รวมทั้งพรรคพวกอีก 7 คนด้วย

ก็เพราะ ทั้งสังคมและตำรวจผู้ใหญ่จำนวนมากมี “ตรรกะป่วย” เช่นนี้ จึงทำให้มีหญิงถูกกระทำอนาจารและข่มขืนเกิดขึ้นทั่วไทยในแต่ละวันแต่ปีมากมาย!

 

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ : ฉบับวันที่ 7 ธ.ค. 2563

About The Author