เมื่อวันที่ 5ก.ย.2563 Innocence International Thailand ร่วมกับสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธิธรรมาภิบาลแห่งเอเชีย (AGF) และ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนโยบายสาธารณะและธรรมาภิบาล เยอรมัน-อุษาคเนย์ (CPG)  จัดงานเสวนา “สังคายนากระบวนการยุติธรรม”

      ไม่ทราบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้และตระหนักอย่างแท้จริงหรือไม่ว่า ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศขณะนี้ อยู่ในขั้นหนักหนาสาหัสเพียงใด?

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค. 2563 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย innocent international Thailand  และสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.)จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง  “หมายจับ ต้องปฏิรูปอย่างไร ศาลจึงจะไม่ถูกตำรวจใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งประชาชน”

   ต่อปัญหากระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่ ล้าหลังของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชั้นการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน 

รวมทั้งการสั่งคดีของพนักงานอัยการ ที่หลายกรณีผลคดีไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ปฏิรูปตำรวจ วนในอ่าง ปฏิรูปที่ก้าวหน้า แก้ปัญหาได้จริง

อ่าน  โรดแมปปฏิรูปตำรวจ ฉบับไตรภาค มีคำตอบ

        จากปรากฏการณ์ การสอบสวนแบบพิลึกพิลั่นในคดีบอสขับรถชนตำรวจตาย ที่สุดท้ายทำให้ หลุดรอดทุกคดี รองอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง และ ผบ.ตร.ก็เห็นชอบ ไม่ได้ทำความเห็นแย้งเสนออัยการสูงสุดให้วินิจฉัยอะไร 

คดี บอส ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตายคาเครื่องแบบ ที่ตำรวจผู้ใหญ่ผู้รับผิดชอบ ทุกระดับแม้กระทั่ง ผบ.ตร.ไม่ว่ายุคสมัยใด ปล่อยให้คาราคาซังใช้เวลาสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนานเกือบ 8 ปี!

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 พ.ต.อ.วิรุตม์  ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) และ อนุกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า การสอบสวนของตำรวจแบบ “ล้มคดี”  เช่น คดีนายวรุยทธ หรือ บอส อยู่วิทยา จนทำให้ในที่สุดหลุดรอดทุกข้อหา  เริ่มตั้งแต่ปล่อยให้ขาดอายุความและสอบปากคำบุคคลหลายปากหักล้างรายงานเรื่องความเร็ว 177 

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 พ.ต.อ.วิรุตม์  ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) และ อนุกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า การสอบสวนของตำรวจแบบ “ล้มคดี”  เช่น คดีนายวรุยทธ หรือ บอส อยู่วิทยา จนทำให้ในที่สุดหลุดรอดทุกข้อหา  เริ่มตั้งแต่ปล่อยให้ขาดอายุความและสอบปากคำบุคคลหลายปากหักล้างรายงานเรื่องความเร็ว 177  กม.ต่อชั่วโมง

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 พ.ต.อ.วิรุตม์  ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) และ อนุกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า การสอบสวนของตำรวจแบบ “ล้มคดี”  เช่น คดีนายวรุยทธ หรือ บอส อยู่วิทยา จนทำให้ในที่สุดหลุดรอดทุกข้อหา  เริ่มตั้งแต่ปล่อยให้ขาดอายุความและสอบปากคำบุคคลหลายปากหักล้างรายงานเรื่องความเร็ว 177  กม.ต่อชั่วโมง

                ปัญหาการสอบสวนคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่รองอัยการสูงสุด กลับคำสั่ง จากที่อัยการผู้รับผิดชอบเคยสั่งฟ้อง กลายเป็น สั่งไม่ฟ้อง

 และ ผบ.ตร.ก็เห็นชอบ ไม่ได้ทำความเห็นแย้งแสดงเหตุผลที่ควรสั่งฟ้อง อะไรเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดแต่อย่างใด?

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2563 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สถาบันปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ร่วมกับเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (Police  Watch) และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จัดเวทีเสวนาสาธารณะ “บทเรียนกรณี บอส กระทิงแดง : จะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างไรไม่ให้คนผิดลอยนวล”