‘บ่อนกาสิโน’ มีแต่ ‘คนโง่’ เข้าไปเล่น ตกเป็นเหยื่อ ‘คนชั่ว’

‘บ่อนกาสิโน’ มีแต่ ‘คนโง่’ เข้าไปเล่น ตกเป็นเหยื่อ ‘คนชั่ว’

 

พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

 

ความพยายามของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ พรรคเพื่อไทย ในการเปิด บ่อนพนัน อันเป็นการเล่นที่ผิดกฎหมายมาแต่ไหนแต่ไรทำให้กลายเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย ทุกคนสามารถเข้าไปเล่นได้นั้น

ไม่ทราบว่าปัญหาอันเป็นที่มา เนื่องจากว่า รัฐบาลไม่สามารถปราบบ่อนผิดกฎหมายให้หมดไปได้

หรือหวังใช้การพนันเป็นเครื่องมือหารายได้เพื่อการสร้างชาติสร้างสังคมตามที่โฆษณากันแน่?

การเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยพยายามเลื่อนขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าชื่อกฎหมายจะใช้ ถ้อยคำอำพราง ให้ดูเป็น แหล่งรวมสถานบันเทิงและสวนสนุกสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศวัย โดยมีกาสิโนที่บอกว่าเป็นสัดส่วนเล็กน้อยเท่าใด?

แต่ประชาชนทั้งผู้ต่อต้านคัดค้านและไม่ต่อต้านล้วนแต่เรียกว่า กฎหมายกาสิโน ด้วยกันทั้งสิ้น

ซึ่งหมายถึง สถานที่เล่นพนันประเภท ก. ตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ.2478 รวม 27 รายการ ซึ่งรัฐห้ามเล่นเด็ดขาด ไม่มีการอนุญาตในทุกกรณี นำมารวมไว้ในสถานที่นั้น

ไม่ว่าจะเป็นไฮไล โปปั่น กำถั่ว จับยี่กี บาคารา ตู้ม้า สล็อตแมชชีน น้ำเต้าปูปลา และอีกสารพัด

เหตุที่รัฐไทยห้ามมิให้ประชาชนเล่นการพนันประเภท ก. ก็เพราะเห็นว่า เป็นการเล่นที่ได้เสียกันในเวลาอันรวดเร็ว และเล่นได้ในพื้นที่จำกัดพร้อมกันครั้งละมากๆ ทั้งไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาว่าพระอาทิตย์ยังส่องแสงอยู่หรือไม่ เป็นอันตรายต่อฐานะทางเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชน

เป็นที่ทราบกันดีว่า การพนันทุกชนิดเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริงใดๆ ในทุกสังคม เป็น Non Productive Activity หรือ Zero Sum Game

จึงไม่มีรัฐบาลที่ดีประเทศใดส่งเสริมให้คนในชาติของตนเล่นการพนัน

หลายประเทศที่เปิดล้วนเน้นให้คนต่างชาติต่างประเทศเข้าไปเล่นด้วยกันทั้งสิ้น จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ในกรณีที่เป็นคนต่างชาติ

นอกจากนั้นปัจจุบันในทางการแพทย์ก็ยอมรับกันว่า การเล่นพนันจนถึงขั้นติด นั้น ถือเป็น โรค ชนิดหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทั้งต่อตัวบุคคลและสังคมด้วยซ้ำ

แต่ทุกรัฐก็ตระหนักดีกว่า ประชาชนบางคนมักนิยมใช้เวลาเล่นการพนันกันในยามว่างจากการทำงานเพื่อความสนุกสนานและพักผ่อนหย่อนใจคล้ายกีฬาตามประสามาแต่โบราณ

จึงอนุญาตให้เล่นการพนันบางชนิดที่เรียกกันว่า การพนันประเภท ข. ได้ ตามที่ระบุในบัญชีท้าย พ.ร.บ. เช่น การแข่งม้า ชกมวย ชนวัว ชนไก่ ไพ่รัมมี ไพ่ตอง ฯลฯ

เพราะเป็นการพนันที่ไม่ทำให้ได้เสียกันในเวลาอันรวดเร็วและถูกจำกัดด้วยสภาพธรรมชาติ

เช่น ชนไก่ ชนวัว การแข่งม้า เมื่อพระอาทิตย์ตกก็ไม่สามารถแข่งต่อไปได้ รวมทั้งการเล่นแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานกว่าการพนันประเภท ก.

ความพยายามของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในการเปิดบ่อนกาสิโน โดยรวมการพนันประเภท ก. ทุกชนิดมาไว้ในที่เดียวกันเพื่อให้ประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เล่นอย่างหามรุ่งหามค่ำนั้น

มีคนบอกว่า ปัญหามาจากการที่ทุกรัฐบาลไม่สามารถปราบปรามบ่อนพนันผิดกฎหมายให้หมดไปได้

ฉะนั้น ไหนๆ ก็ไหนๆ ควรเปิดให้รัฐบาลเป็นผู้จัดการเป็นเจ้ามือเสียเองให้หมดเรื่องหมดราวไป!

ถ้าเหตุผลในการเปิดบ่อนพนันเป็นไปอย่างวิปริตเช่นนี้ ประเทศไทยก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายห้ามมิให้มีการกระทำใดที่รัฐเห็นว่าเป็นอันตรายต่อชาติและประชาชนอีกต่อไป

ขอเรียกว่า ปัญหาบ่อนผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นทั่วไทยทำให้ผู้คนได้ยินกันจนชินและคิดว่าเป็นเรื่องที่ปราบยากหรือปราบไม่ได้ ตำรวจผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าเป็นนิสัยสันดานของคนไทยมาแต่ไหนแต่ไรนั้น

แท้จริงเกิดจากความล้มเหลวของระบบตำรวจไทย

ตำรวจผู้ใหญ่ทั้งระดับผู้บังคับการโดยเฉพาะผู้บัญชาการ ทุจริตต่อหน้าที่ รู้เห็นเป็นใจหรือแม้กระทั่งบงการให้นายบ่อนผู้เป็นสมัครพรรคพวกมาเปิดในพื้นที่รับผิดชอบด้วยกันทั้งสิ้น!

ปัจจุบัน ประชาชนจึงไม่เคยได้ยินผู้บัญชาการตำรวจที่เรียกกันว่าเป็น “นักสืบ” หรือ “มือปราบ” คนใด ให้ความสนใจในการจับกุมบ่อนการพนันและอบายมุขผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วไทยและเป็นสาเหตุที่แท้จริงของอาชญากรรมร้ายสารพัดแต่อย่างใด

แม้กระทั่งในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวง กรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ไปตรวจจับบ่อนการพนันเอง

ก็ไม่เคยเห็น ผู้บัญชาการตำรวจคนใด ไปตรวจที่เกิดเหตุเพื่อให้ทราบว่า ทำไมตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาของตนซึ่งอยู่ในพื้นที่จึงไม่ได้มีตรวจตราจับกุมตามหน้าที่

ปล่อยให้รัฐมนตรีแม้กระทั่งอธิบดีกรมการปกครองจากกรุงเทพมหานครต้องนำกำลัง อส.ไปจับบ่อนพนันกันเอง โดยไม่สามารถบอกให้ผู้บัญชาการตำรวจคนใดแม้แต่ ผบ.ตร.ให้จัดการหรือแม้แต่ล่วงรู้ได้!

ปัญหาบ่อนพนันผิดกฎหมายจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าปราบยากหรือปราบไม่ได้

แต่เป็นเพราะผู้บัญชาการตำรวจทุกระดับนั่ง รับส่วย บ่อนพนันและแหล่งอบายมุขทุกชนิดกันมาช้านานต่างหาก

โดยหลักการ การนำเรื่องไม่ดีที่รัฐเห็นว่าสร้างความเสียหายจึงได้ออกกฎหมายห้ามไว้มาทำให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย

รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้ได้จนสิ้นสงสัยเสียก่อนว่า ที่ผ่านมาเป็นเรื่องเข้าใจผิด สังคมเสียโอกาสเกิดความเสียหาย หรือเหตุการณ์บ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การเล่นพนันกลายเป็นของดีที่รัฐทุกประเทศควรส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศวัยได้เล่นกันอย่างไม่มีข้อจำกัด

โดย หลัก “คณิตศาสตร์การพนัน” ไม่ว่าประเภทใด สุดท้ายเจ้ามือจะเป็นฝ่ายได้เสมอ

ในข้อเท็จจริงจึงมีคนสองประเภท ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างประเทศที่ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนัน

คือ “คนชั่ว” ที่เป็นเจ้ามือ กับ “คนโง่” ที่เป็นผู้เล่นและตกเป็น “เหยื่อ” เท่านั้น.

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ : ฉบับวันที่ 7 เม.ย. 2568

 

About The Author