40องค์กรประชาชนจี้ประธานสนช.เร่งคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อกสม.โดยเร็ว
				เมื่อวันที่14 ธ.ค.2561 องค์กรสิทธิมนุษยชน 40 องค์กร และบุคคลที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน 40 คน ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรียกร้องให้ประธานสนช.ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ตามคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 เป็นเกณฑ์ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่สอดคล้องกับหลักการสากล และควรคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกสม.โดยเร็ว เพื่อให้ได้กสม.ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนต่อไป
โดยจดหมายเปิดผนึกมีรายละเอียดดังนี้
จดหมายเปิดผนึก
วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑
เรื่อง การตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เรียน ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เคารพ
ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๑ โดยกำหนดระยะเวลาการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน คือวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ต่อมาคณะกรรมาธิการสามัญฯ ขอขยายเวลาการตรวจสอบประวัติฯ ครั้งที่ ๑ ไปอีก ๓๐ วันซึ่งสิ้นสุดในวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และล่าสุดขอขยายเวลาการตรวจสอบประวัติฯ ครั้งที่ ๒ อีก ๓๐ วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ นั้น
องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน และบุคคลที่มีรายนามท้ายจดหมายนี้ ขอเสนอความเห็นและข้อเสนอมายังท่าน เพื่อการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมและสมควรได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
- คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
 
พุทธศักราช ๒๕๖๐ และมีอาณัติในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีอำนาจหน้าที่หลักในการตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงการละเมิดสิทธิมนุษยชน เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดทั้งเสนอแนะการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบหรือคำสั่งใดๆ ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงการเสริมสร้างทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน
ดังนั้น บุคคลที่เหมาะสมจะได้รับการคัดเลือกจากการสรรหาให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงต้องเป็นผู้มีความรู้ และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ ในด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดทำรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน การเสนอแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนเชิงระบบทั้งการปรับปรุงนโยบาย หรือกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีในการปฏิบัติตามให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าว
- บุคคลที่จะได้รับการคัดเลือกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นกรรมการวิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
 
นอกจากมีคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้ว บุคคลดังกล่าว จะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วย กล่าวคือ พิจารณาลักษณะต้องห้ามทั้ง ๒๕ อนุมาตรา ตาม มาตรา ๑๐ เป็นเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งประเด็นที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติควรพิจารณานั้น คือ ลักษณะต้องห้ามที่สำคัญที่อาจถือว่า บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อนั้น เป็นผู้มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือ เป็นผู้มีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแจ้งชัด เช่น เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ หรือเป็นผู้นิยมใช้ความรุนแรงในครอบครัว หรือกับผู้อื่น เป็นต้น ซึ่งลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ขัดแย้งต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามอาณัติที่ได้รับในการเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
ส่วนพฤติกรรมหรือลักษณะใดเป็นลักษณะต้องห้ามที่เป็นที่ถกเถียงกันในทางสื่อมวลชนนั้น เช่น ตาม (๑๗) เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน นั้น ไม่อยู่ในลักษณะต้องห้ามที่ควรนำมาเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณามิให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพราะเหตุว่า ลักษณะต้องห้ามนี้ หมายถึง บุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ถูกศาลพิพากษาจำคุกและผู้นั้นต้องได้รับโทษจำคุกจริง ดังนั้นแม้ศาลพิพากษาให้จำคุกแต่โทษจำคุกให้รอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษไว้ก่อน จึงมิใช่เป็การต้องคําพิพากษาให้จําคุก เพราะผู้นั้นไม่ได้ถูกจำคุกจริง ตามนัยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓๖/๒๕๔๒ จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
นอกจากนี้พฤติกรรมอื่นๆ เช่น การมีประสบการณ์เป็นผู้คัดค้านโทษประหารชีวิตก็ดี การเสนอให้มีการปฏิรูปตำรวจก็ดี หรือการมีคู่ชีวิตเป็นสื่อมวลชนก็ดี ล้วนไม่ใช่ลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ที่จะนำมาเป็นเหตุมิได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วยเช่นกัน
๓. ผู้ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติกำลังพิจารณาอยู่นี้ เป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอื่นในการพิจารณาคัดเลือกให้ได้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมาจากภาคประชาชนหรือภาครัฐ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการสหประชาชาติว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติ หรือหลักการปารีส ที่ว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรมาจากบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพและความเชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนที่หลากหลายและต้องมีผู้แทนภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย
ด้วยหลักการและเหตุผลข้างต้น องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรสิทธิมนุษยชนจึงมีข้อเสนอแนะ ต่อท่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๘ (๑) – (๕) และ มาตรา ๑๐ (๑) – (๒๕) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นเกณฑ์ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่สอดคล้องกับหลักการสากล และควรคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติโดยเร็ว เพื่อให้ได้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนต่อไป
องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน และบุคคลที่มีรายนามท้ายจดหมายนี้มีความเชื่อมั่น ว่าการดำเนินการตามหลักการและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ประชาชนไทย และกลไกการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนระดับสากลในทุกภูมิภาคของโลก มีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยมากขึ้นเท่านั้น แต่จะทำให้ประเทศไทยมีความสง่างามในการเป็นประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๒ และมีกลไกปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่มาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่พร้อมจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอีกด้วย
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิมนุษยชน
รายนามองค์กร
- ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove)
 - คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ๓๕
 - สถาบันสังคมประชาธิปไตย
 - สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา
 - มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.)
 - เครือข่ายนักสื่อสารแรงงาน
 - ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.)
 - มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.)
 - คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
 - มูลนิธิชุมชนเกษตรนิเวศน์ จ.สุรินทร์
 - มูลนิธิกองทุนไทย
 - มูลนิธิป่า-ทะเลเพื่อชีวิต จ.สุราษฎร์ธานี
 - เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน
 - โครงการปฏิรูปการเกษตรและพัฒนาชนบท จ.พิจิตร
 - สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์
 - สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ
 - ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
 - เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสาน
 - สมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น
 - กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน
 - สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
 - คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)
 - สมาคมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
 - ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD)
 - สมาคมป่าชุมชนอีสาน
 - มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว (มคค.)
 - มูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน (มรพ.)
 - สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.)
 - สถาบันพัฒนาพลังสังคม (สพส.)
 - มูลนิธิสระแก้ว
 - มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.)
 - มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม
 - มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.)
 - สหพันธ์เกษตรภาคเหนือ (สกน.)
 - ศูนย์สร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา
 - เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติดินน้ำป่า ภาคเหนือล่าง
 - สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค
 - เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกฉะเชิงเทรา
 - มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ
 - สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
 
รายชื่อบุคคล
- นพพรรณ พรหมศรี
 - วาสนา ลำดี
 - ประกาศ เรืองดิษฐ์
 - เชษฐา มั่นคง
 - สุริยันต์ ทองหนูเอียด
 - มานพ สนิท
 - วิเศษ คุณฤทธิพงศ์
 - จำรัส หวังมณีย์
 - นิกร วีสเพ็ญ
 - วัฒนา นาคประดิษฐ์
 - ประพจน์ ศรีเทศ
 - ปานจิตต์ แก้วสว่าง
 - จำนงค์ จิตรนิรัตน์
 - ปฏิวัติ เฉลิมชาติ
 - กรรณิการ์ แพแก้ว
 - อนุชา วินทะไชย
 - กรรณิการ์ กิจติเวชกุล
 - สุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง
 - โอฬาร อ่องละ
 - สมบูรณ์ คำแหง
 - อารัติ แสงอุบล
 - สุแก้ว ฟงฟู
 - ดร.ดำเกิง โถทอง
 - พิณทอง เล่ห์กันต์
 - สุรัสวดี หุ่นพยนต์
 - วัชรา สงมา
 - สุธีลา ลืนคำ
 - สุดท้าย ต่อโชติ
 - นิรันดร์ กุลฑานันท์
 - รศ.ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ์
 - กรรณิกา ควรขจร
 - สาคร สงมา
 - สุทธาวัลย์ บัวพันธ์
 - จันทนา เอกเอื้อมณี
 - นันทวัน หาญดี
 - ศ.ระพีพรรณ คำหอม
 - รศ.เล็ก สมบัติ
 - ผศ.ดร.ภุชงค์ เสนานุช
 - ผศ.ดร.นฤมล ทับจุมพล
 - ดร.น้ำผึ้ง มีศิล
 

