ตำรวจไถตำรวจ!รองสว.สืบสวนสภ.จุฬาภรณ์ ร้องศูนย์ดำรงธรรมนครศรีฯ เอาผิด4ตร.ทางหลวงรีดเงินอดีตภรรยา เจรจากันแล้วไม่ยอมจึงแจ้งจับยกโขยง

4

เมื่อวันที่ 26มิ.ย.63 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช  ร.ต.ต.สาธิต ชำนาญ รอง สว.สืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้นำเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายและบันทึกการแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวง 4 นาย ไปขอความเป็นธรรมและขอให้สื่อมวลชนช่วยตีแผ่ความจริง กรณีอดีตภรรยาของตัวเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทั้ง4นายเรียกรับเงิน

 

โดยร.ต.ต.สาธิต ระบุว่า เมื่อวันที่ 4พ.ค.63 อดีตภรรยาขับรถผ่านหน้าปั๊มแก๊สตลาดใหม่ อ.จุฬาภรณ์ และมีรถตำรวจทางหลวงขับตามมาแล้วส่งสัญญาณให้จอด จากนั้นทั้ง 4 นายลงมาเจรจาแจ้งว่า”รถคันนี้เป็นรถเถื่อน อดีตภรรยาจึงโทรบอกจึงไปที่เกิดเหตุและแจ้งตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นายว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ยืนยันว่ารถเก๋งคันนี้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอาทะเบียนสวมทับไว้พราะเป็นรถที่ใช้ทำงานจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด แต่ได้รับคำตอบว่า “คุยกับคุณนายแล้วว่าผมขอเงินกินกาแฟ 10,000 บาท” จึงบอกว่าไม่สะดวกให้ไปเอาที่บ้านอดีตภรรยา ก่อนตำรวจทางหลวง 3 นายขับตามไป จากนั้นอดีตภรรยาได้นำเงิน 10,000 บาทไปวางในรถแล้วแยกย้ายกัน ต่อมาอดีตภรรยาได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงทั้ง4 นาย

 

จากนั้นวันที่ 17 มิ.ย.63 ได้มีบุคคล 6 คน นำทีมโดยนักการเมืองท้องถิ่นมาเจรจาเพื่อคืนเงิน 10,000 บาท ให้อดีตภรรยา โดยมีภาพถ่ายและคลิปเหตุการณ์การเจรจาคืนเงินไว้ทุกขั้นตอน ตนกับอดีตภรรยาจึงนำเงิน 10,000 บาทไปลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนรับคดีเรียบร้อยแล้วและส่งเรื่องถึง ปปท.ให้ตรวจสอบตามระเบียบราชการอีกทางหนึ่งจะดำเนินคดีกับ 4 ตำรวจทางหลวงจนถึงที่สุด

 

“หมดเวลาที่จะเจรจาต่อรองกันแล้ว เพราะวันแรกได้บอกว่าเป็นตำรวจด้วยกันไม่สมควรจะทำกันอย่างนี้ แต่ 4 ตำรวจทางหลวงไม่ยอม ซึ่งใครจะมาเจรจาอย่างไรและอดีตภรรยาไม่ยอมล้มคดีแน่นอน และต้องการให้สื่อตีแผ่พฤติกรรมของตำรวจแบบนี้ เพราะหากเป็นประชาชนทั่วไปจะเป็นอย่างไร” ร.ต.ต.สาธิต กล่าว

 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ตำรวจทางหลวง รีดเงินเมียตำรวจชุดสืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ 10,000 บาท แล้วปล่อยตัว ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่าเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายตำรวจ ฝ่ายสืบสวนยศ ร.ต.ต. สังกัด สภ.จุฬาภรณ์ จว.นครศรีธรรมราช รายหนึ่ง ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ส.ทล.4 กก.7 จำนวน 4 นาย ในความผิด ฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมที่จะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย 41 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จว.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ซึ่งในการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพฤติการณ์กระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งเอกสารสอบสวนและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง ป.ป.ท.เขต 8 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

 

ทั้งนี้พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ทั้งในส่วนกรณีที่กล่าวหาตำรวจทางหลวงรับเงินจากทางผู้เสียหายและกรณีที่นายตำรวจฝ่ายสืบสวนยศ ร.ต.ต. ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เจรจาเรียกรับเงินและนำภาพคลิปไปร้องเรียนสื่อมวลชน โดยให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน ส่วนของการดำเนินการทางวินัยนั้น เบื้องต้น พ.ต.อ.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ ผกก.7 บก.ทล ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายที่ถูกกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่อำนวยการประจำ ส.ทล.4 กก.7 โดยให้งดปฏิบัติหน้าที่ที่พบปะกับประชาชนและเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทั้งสองฝ่าย

 

นอกจากนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว ให้ความเป็นธรรม หากพบว่าตำรวจกระทำความผิดตามที่กล่าวอ้างจริง ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

About The Author