‘ส.ต.ท.’อุ้ม’พี่เตี้ย’ไปตายพร้อมทนายดอดพบพงส. สภ.ภูพิงค์ รับทราบ3ข้อหาให้การภาคเสธรับแค่ทิ้งซากสัตว์ แต่ไม่ยอมไปชี้จุดเกิดเหตุตกรถจุดไหน อย่างไร

มีความคืบหน้าคดี “เตี้ย มช.” สุนัขเพศผู้ อายุ 8 ปี ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ถูกพบซากตายเน่าอยู่ในป่าข้างทาง หลังมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา เขตบ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากนั้นเจ้าของ เตี้ย และ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand – WDT เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหา ทารุณกรรมสัตว์ และทิ้งซากสัตว์ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์

 

ล่าสุด ที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เวลา 10.30 น. วันที่ 28พ.ค.63  ส.ต.ท.ปริญญา ปัญญาบุตร ผบ.หมู่ ตชด.33 จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้ามาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทนายความ และออกจากห้องสอบสวนพร้อมทนายความ เมื่อเวลา 15.00 น. โดยรีบเดินหลบไปทางด้านประตูด้านหลัง สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ขึ้นรถยนต์ ฮอนด้า สีดำ ขับออกไปทันทีโดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์

 

ในระหว่างที่ ส.ต.ท.ปริญญา พร้อมทนายความ กำลังรับทราบข้อกล่าวหานั้น เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เดินทางเข้ามาที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพื่อจะมาสังเกตการณ์ความคืบหน้าคดี “เตี้ย มช.” ด้วย แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ จึงได้เดินทางกลับไปก่อน โดยจะติดตามความคืบหน้าคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในภายหลัง ซึ่งขณะนี้คดีที่เกิดในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก ได้นำมารวมกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เรียบร้อยแล้ว โดยทาง สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จะรับผิดชอบในคดีทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการติดตามและดำเนินคดี

 

ด้านพ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า วันนี้ผู้ต้องหาในคดี “เตี้ย มช.” เดินทางเข้ามาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ 3 ข้อ ด้วยกัน คือ ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ข้อหา ทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอ้นสมควร และ ข้อหา ทิ้งซากสัตว์ โดยทางผู้ต้องหาให้การปฏิเสธใน ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และ ข้อหา ทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร แต่รับทราบสารภาพ ข้อหา ทิ้งซากสัตว์ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ก็จะได้มีการเรียก ส.ต.ท.ปริญญา มารายงานตัวตามนัดของพนักงานสอบสวน ในวันที่ 9 มิ.ย.2563 ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

About The Author