เปิด ข้อเสนอปฏิรูปตำรวจ กมธ.ความมั่นคงฯ โอนภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ายข้ามหน่วยไม่ได้  ยุบตร.ภาค!

เปิด ข้อเสนอปฏิรูปตำรวจ กมธ.ความมั่นคงฯ ผู้ว่าฯเป็นประธานกต.ตร.โยกย้ายตร.ในพื้นที่ได้ โอนภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ายข้ามหน่วยไม่ได้  ยุบตร.ภาค ก.ต.ช.ห้ามจุ้นโรงพัก

 

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2568 คลังสารสนเทศรัฐสภา  ​ ​ ​ ​ ​เผยแพร่  ​ ​ ​รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพิจารณาศึกษาการปฏิรูประบบราชการตำรวจ  มีเนื้อหาดังนี้

ข้อเสนอปฏิรูป โครงสร้างตำรวจ 3 ระยะ / 5 ปี ของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร

ระยะที่ ๑ แก้ไข (กรอบระยะเวลาดำเนินการ ๑ ปี)

๑) แก้ไขปรับปรุงโครงสร้าง คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัด(กต.ตร.จว.) /คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจกรุงเทพมหานคร (กต.ตร.กทม.)โดยกำหนดให้ กต.ตร.จว. /กต.ตร.กทม. มีผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานและกรรมการมาจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ รวมถึงภาคประชาสังคม และเพิ่มอำนาจให้ กต.ตร.จว./กต.ตร.กทม.มีหน้าที่และอำนาจให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับในพื้นที่นั้น ๆ โดยเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ และระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงาน

​๒) เสนอแนะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการรับคำร้องทุกข์จากประชาชนให้สามารถตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการ ขั้นตอนต่างๆ ได้และนำมาใช้ในการบริหารจัดการสำนวนการสอบสวน รวมถึงมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานระหว่างหน่วยงาน โดยเฉพาะฐานข้อมูลผู้ลี้ภัย ฐานข้อมูลคนเข้าเมืองและฐานข้อมูลทะเบียนรถ เป็นต้น

ระยะที่ ๒ โอนหน่วยงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปยังกรุงเทพมหานคร จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ตำรวจพื้นที่) และจัดโครงสร้างตำรวจส่วนกลางและตำรวจฝ่ายตรวจสอบ (กรอบระยะเวลา ๒ ปี)

๑) โอนหน่วยงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้กรุงเทพมหานคร และโอนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดให้จังหวัด (ตำรวจพื้นที่) รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม เพื่อจัดตั้งเป็นหน่วยงานตำรวจพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตำรวจพื้นที่จังหวัดซึ่งมีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมในระดับพื้นที่

ทั้งนี้ การโอนภารกิจในด้านต่าง ๆ ข้างต้น ต้องถ่ายโอนทั้งอำนาจหน้าที่ บุคลากรและงบประมาณในการปฏิบัติภารกิจนั้น ๆ ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเองทั้งหมด และต้องคุ้มครองโอกาสในการปฏิบัติงานวิชาชีพ โดยให้บุคลากรที่โอนไปสู่หน่วยงานใหม่มีความเจริญก้าวหน้าในสายงานและได้รับ ยศ ตำแหน่ง ค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิอื่น ๆ ไม่ต่ำกว่าที่บุคลากรนั้นได้รับอยู่เดิม ​ ทั้งนี้ควรกำหนดแผนในการทดลองการดำเนินงานและขั้นตอนการโอนส่วนราชการดังกล่าว โดยมีการกำหนดรายละเอียดระยะเวลาที่ชัดเจน รวมถึงมีกระบวนการทดลองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย นอกจากนี้ควรพิจารณาว่าหน่วยงานของรัฐที่มีการรับโอนส่วนราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากน้อยเพียงใดด้วย เช่น การรับคำร้องทุกข์ในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งบางหน่วยงานที่รับโอนอาจไม่มีที่ทำการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด

๒) สำหรับในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจส่วนกลาง) ยังคงให้ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีส่วนราชการภายในประกอบด้วย สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจส่วนกลาง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยให้มีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบทับซ้อนคู่ขนานกันกับตำรวจพื้นที่ ในลักษณะสนับสนุนและถ่วงดุลซึ่งกันและกันโดยเน้นเฉพาะในงานที่เกินขีดความสามารถของตำรวจพื้นที่ คดีอาญาที่มีความซับซ้อนหรือที่มีความเกี่ยวพันกันในหลายพื้นที่ หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้อิทธิพลและหรือที่มีตำรวจพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเป็นกรณีที่ตำรวจพื้นที่ละเว้นหรือละเลยไม่ดำเนินการ งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ หรือเป็นงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น

๓) สำนักงานจเรตำรวจ ซึ่งเดิมมีหน้าที่และในการตรวจสอบภายใน รับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ รวมถึงการป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในองค์กรตำรวจ จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความเป็นกลาง โปร่งใส และสามารถใช้ปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ได้โดยอิสระ ไม่ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใด จึงมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานจเรตำรวจเดิมเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นตำรวจฝ่ายตรวจสอบ มีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของตำรวจทุกหน่วย รวมถึงการดำเนินการทางวินัยและอาญากับตำรวจที่ทุจริตประพฤติมิชอบด้วย โดยเสนอให้สำนักงานจเรตำรวจเป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารงานตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งจะมีการกำหนดโครงสร้างและมาตรฐานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจในฝ่ายตรวจสอบเองเป็นการเฉพาะ

ทั้งนี้ หลังจากจัดวางโครงสร้างตำรวจตาม ๑-๓ แล้ว ข้าราชการตำรวจในแต่ละส่วนจะไม่สามารถโยกย้ายข้ามหน่วยระหว่างกันได้

ระยะที่ ๓ ยุบหน่วยงานที่มีภารกิจซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นและหมดความจำเป็นภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กรอบระยะเวลา ๒ ปี)

๑) ตำรวจภูธรภาค ๑ – ๙ ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการหรือหน่วยงานอย่างอื่น หรือในระดับที่ต่ำลงไป ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๗ มีหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการ การจัดระบบงานและบริหารงานบุคคลของตำรวจภูธรภาค งานการข่าว สถิติ การเงินการบัญชี งบประมาณ งานวินัย งานชุมชนสัมพันธ์ และงานสวัสดิภาพเด็กและสตรีเป็นต้น ซึ่งหากพิจารณาหน้าที่และอำนาจดังกล่าวแล้วเห็นว่า ภารกิจงานของหน่วยมีความซ้ำซ้อนกับงานของหน่วยงานระดับสถานีตำรวจภูธร และหน่วยงานอื่น ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ว่าจะเป็นงานอำนวยการ ระบบงานและบริหารงานบุคคลของตำรวจภูธรภาค งานการข่าว สถิติ การเงิน การบัญชี งบประมาณ งานวินัย งานชุมชนสัมพันธ์และงานสวัสดิภาพเด็กและสตรี และงานด้านอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๖๕ ที่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติราชการในระดับสถานีตำรวจ จึงมีข้อเสนอแนะให้ยุบตำรวจภูธรภาค๑ – ๙ และให้โอนเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนงานดังกล่าวมาปฏิบัติราชการในระดับสถานีตำรวจเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๒) กองบังคับการตำรวจนครบาล ๑ – ๙ ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการหรือหน่วยงานอย่างอื่น หรือในระดับที่ต่ำลงไป ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๗ มีหน้าที่การรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ รักษาความสงบเรียบร้อย การให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญ รวมถึงปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นต้น ซึ่งหากพิจารณาหน้าที่และอำนาจดังกล่าวแล้วเห็นว่า ภารกิจงานของหน่วยมีความซ้ำซ้อนกับงานของหน่วยงานระดับสถานีตำรวจนครบาล และหน่วยงานอื่น ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ว่าจะเป็นงานอำนวยการ งานสืบสวนสอบสวน การให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญ รวมถึงปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและงานด้านอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติราชการในระดับสถานีตำรวจ จึงมีข้อเสนอแนะให้ยุบกองบังคับการตำรวจนครบาล ๑ – ๙ และให้โอนเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนงานดังกล่าวมาปฏิบัติราชการในระดับสถานีตำรวจเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๓) คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจ ตามระเบียบ ก.ต.ช.ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. ๒๕๔๙ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบาย ก.ต.ช. ตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจให้เป็นไปตามนโยบายของ ก.ต.ช. ซึ่งหากพิจารณาหน้าที่และอำนาจดังกล่าวแล้วเห็นว่า คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจ ทั้งในสถานีตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจภูธรมีหน้าที่แค่เพียงให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบาย ก.ต.ช. เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่และอำนาจในการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่โดยตรง ซึ่งหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. ๒๕๔๙ มีความซ้ำซ้อนกับภาระหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด ที่มีหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจให้เป็นไปตามนโยบาย ก.ต.ช. อยู่แล้ว จึงมีข้อเสนอแนะให้ยกเลิกคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจ และใช้กลไกการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจผ่านหน่วยงานบังคับบัญชาที่สูงขึ้นไปอย่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อลดขั้นตอนและความซ้ำซ้อนของการทำงาน

About The Author