‘ประมวลจริยธรรม’ เรื่องขำๆ ของตำรวจไทย!

ยุติธรรมวิวัฒน์

ประมวลจริยธรรมเรื่องขำๆ ของตำรวจไทย!

 

          พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

         เหตุการณ์สารวัตรตำรวจทางหลวงถูกนายหน่องยิงตายในงานเลี้ยงอาหารบ้านกำนันนก  ผู้ประกอบธุรกิจก่อสร้างถนนหนทางและรถบรรทุกดินทรายผู้กว้างขวางและมีน้ำใจในจังหวัดนครปฐม

ปมปัญหาสำคัญที่ผู้คนสงสัยใคร่รู้แท้จริงก็คือ  “แรงจูงใจให้นายหน่องกระทำการอย่างอุกอาจเช่นนั้น  เกิดจากอะไร?

ไม่ว่าจะเป็นข้อสันนิษฐานของพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีที่ว่า  ถูกเจ้านายคือกำนันสั่งใช้ให้ทำ  ด้วยเหตุขัดใจที่ขอให้ช่วยเปลี่ยนหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งไม่ได้?

หรือในข้อเท็จจริง นายหน่องเกิดอารมณ์เดือดดาลเมื่อเห็นการกระทำของสารวัตรที่ตนคิดว่า เป็นการหักหน้าเจ้านายผู้มีพระคุณอันเป็นที่รักสุดชีวิต  

คนที่จะไขปัญหานี้ให้กระจ่างได้อย่างแท้จริงก็คือ ตัวคนร้าย ที่จะบอกว่าทำไปเพราะอะไร?

แต่เมื่อนายหน่องได้ถึงแก่ความตาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุวิสามัญฆาตกรรม

หรือว่าอาจเป็น “สามัญฆาตกรรม”!

ได้ทำให้เหตุผลแท้จริงซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการรู้นั้นดำมืดตลอดไป

นอกจากปัญหาสาเหตุของการฆ่าต่อหน้าตำรวจกว่ายี่สิบคนที่ประชาชนสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซ้ำหลังเกิดเหตุตำรวจจำนวนมากแม้กระทั่งนักสืบมือฉกาจที่นั่งอยู่ในงานหลายคนก็ได้ปล่อยให้ผู้กระทำผิดหนีออกไป

อีกประเด็นหนึ่งซึ่งผู้คนให้ความสนใจก็คือ  ตำรวจไทยผู้มียศน้อยใหญ่ไปนั่งมั่วสุมรับเลี้ยงเหล้ายาอาหารกันในบ้านของบุคคลที่เรียกกันหลังเกิดเหตุว่า

เป็น “ผู้มีอิทธิพล”

ในฐานะที่ทุกคนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายถือเป็นการกระทำผิดวินัย หรือจริยธรรมตำรวจข้อหนึ่งข้อใดหรือไม่?

ขอเรียนว่า ประเด็นนี้ ถ้าไม่มีเหตุสารวัตรตำรวจถูกยิงตาย

ก็คงไม่มีใครไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือประชาชนคิดถึงเรื่องความผิดทางวินัยหรือจริยธรรมตำรวจอะไรทั้งสิ้น

คำว่า “กินฟรี มีเกียรติ” เป็นสิ่งที่ตำรวจไทยชอบพูดและบอกญาติมิตรกันด้วยความภูมิใจมาช้านาน!

ตำรวจผู้ใหญ่สอนลูกหลานกันว่า ไม่มีอาชีพใดที่ “ผู้ให้ต้องยกมือไหว้ผู้รับเหมือนตำรวจประเทศไทย

ตามกฎหมายคือ พ.ร.บ.ตำรวจ กำหนดห้ามไว้มิให้ตำรวจทุกระดับกระทำข้อหนึ่งซึ่งถือเป็นความผิดทางวินัยคือ

การประพฤติตนไม่สมควร หรือ “กระทำการอันไม่สมควร”

มีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ กักยาม และกักขัง

แต่ถ้าการกระทำนั้นได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ก็มีโทษไล่ออก ปลดออก จากราชการ

ส่วนการกระทำใดที่ถือว่าเป็น “การกระทำอันไม่สมควร”  ก็อยู่ที่ตำรวจผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจจะวินิจฉัย

ไม่ได้มีหลักหรือเกณฑ์ที่ชัดเจนเป็นมาตรฐานอะไร?

ตำรวจผู้ใหญ่หรือแม้แต่ ผบ.ตร.คนที่เห็นว่าการ “กินฟรี มีเกียรติ” ของตำรวจเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าเกียรตินั้นจะมีจริงหรือไม่?  

ก็จะบอกว่าไม่เป็นการทำผิดวินัยที่จะต้องลงโทษทัณฑ์ทั้งร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงอะไร

เมื่อไม่ได้มีบทบัญญัติใดมิให้ตำรวจไทย รับกินฟรีไม่ว่าจากบุคคลอาชีพใด

การไปนั่งล้อมวงสังสรรค์กินเหล้าและอาหารในบ้านกำนันเช่นนั้น  จะมาพูดกันภายหลังเกิดเหตุร้ายว่า เข้าข่ายเป็นการทำผิดวินัย

 ก็จะไม่เป็นธรรมสำหรับตำรวจผู้นิยมการกินฟรีซึ่งพร้อมไปกินทุกที่ทั่วไทย!

แม้ประชาชนทั่วไปจะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  แต่เมื่อตำรวจผู้ใหญ่ไม่ได้คิดเช่นนั้น  การพิจารณาโทษทัณฑ์ก็ย่อมไม่เกิดขึ้น

ขอบคุณภาพ จาก Bright today

สำหรับจริยธรรมตำรวจ ได้มีการออกกฎ ก.ตร.ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และเพิ่มเติมเมื่อ ๑ ก.ย. ๒๕๖๔ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็มีตอนหนึ่งว่า

ข้อ ๒ ข้าราชการตำรวจพึงปฏิบัติตนเพื่อรักษาจริยธรรม ดังนี้

(๒) ต้องซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยความโปร่งใส ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ  รับผิดชอบต่อหน้าที่  มีความพร้อมรับการตรวจสอบและรับผิด  มีจิตสำนึกที่ดี  คำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม  สิทธิมนุษยชน  เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

(๓) ต้องกล้าตัดสินใจและยืนหยัดกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม  กล้าคัดค้านและดำเนินการแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่  ใช้ดุลยพินิจในการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากอคติ  ไม่ยอมกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมเพียงเพื่อรักษาประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

ไม่คบหาหรือให้การสนับสนุนผู้ประพฤติผิดกฎหมาย  ผู้มีอิทธิพล  หรือผู้มีความประพฤติหรือมีชื่อในทางเสื่อมเสียอันอาจกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชน  และต้องวางตัวเป็นกลางในฐานะผู้รักษากฎหมายในกระบวนการยุติธรรม

กฎ ก.ตร.ว่าด้วยจริยธรรมที่บัญญัติข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามมิให้ตำรวจทุกระดับปฏิบัติมากมายเหล่านี้

เป็นเรื่องที่ตำรวจอ่านหรือได้ยินแล้วรู้สึกขำๆ

ตำรวจผู้ใหญ่ไม่ว่าระดับใด  ก็ไม่มีใครสนใจอ่าน หรือถือปฏิบัติกันแต่อย่างใด

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์  คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 11 ก.ย. 2566

About The Author