‘แอลกอฮอล์วอช’หอบหลักฐานร้องสตช.แฉสถานบันเทิงวีไอพีกลางเมืองชัยภูมิเปิดเย้ยกฎหมาย ปล่อยเด็กต่ำกว่า20เข้ามั่วสุม จี้ตรวจสอบอีก600กว่าแห่งทั่วประเทศ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)วันที่ 23 ก.ค.2563 นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 20 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่านทางพ.ต.อ.กมลเดช อนุกูล รองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล3 เวรอำนวยการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีวัยรุ่นยกพวกตีกัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน หลังออกจากสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งกลางเมืองชัยภูมิ ที่แม้เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 แต่กลับมาเปิดใหม่โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ทั้งนี้เครือข่ายฯได้นำรายชื่อสถานบันเทิง ร้านเหล้า ผับ บาร์ ทั่วประเทศ ที่เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช.กว่า600 ร้าน มอบให้ ผบ.ตร.เพื่อตรวจสอบสถานะ เนื่องจากมีข่าวว่า ร้านที่เคยถูกคำสั่งปิดจะแอบกลับมาเปิดใหม่ในหลายพื้นที่
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า จากกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ค. สถานบันเทิงชื่อดัง ร้านเดือนเคียงดาว ณ เฉลียง ตั้งอยู่บริเวณ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มีวัยรุ่นทั้งชายหญิงจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากสถานบันเทิงดังกล่าว แล้วส่งเสียงร้องตะโกนเอะอะโวยวาย ขว้างปาข้าวของใส่กัน ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุน ลงไปทำร้ายร่างกายกัน จนได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งทาง ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ตรวจสอบพบว่า ก่อนจะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวทั้งชายและหญิงเข้าไปใช้บริการ ไม่ต่ำกว่า 300คน มีทั้งที่อายุเกิน 20ปีขึ้นไป และอายุต่ำกว่า 20 ปีลงมา และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า สถานบันเทิงแห่งนี้ ได้มีคำสั่งให้ปิดกิจการเป็นเวลา5ปี ตั้งแต่วันที่16 พ.ย.2561ถึง15 พ.ย.2566 เนื่องจากฝ่าฝืนเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ปล่อยให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า20ปี เข้าใช้บริการ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้กับเด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด แต่ปิดกิจการไปได้เพียง2ปี ก็กลับมาเปิดใหม่ในสถานที่เดิม
“แม้จะอ้างว่าเปิดเป็นร้านอาหารแต่จากหลักฐานที่ปรากฏมีการแสดงดนตรี ขายเหล้าเบียร์ชัดเจน ที่สำคัญมีเด็กอายุต่ำกว่า20ปีเข้าไปใช้บริการ เป็นความผิดซ้ำซากที่ท้าทายกฎหมายอย่างยิ่ง เพราะในคำสั่งปิดนั้นมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนลงนาม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมายมีส่วนร่วม ดังนั้น เครือข่ายฯจึงไม่อาจรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ และนอกจากกรณีนี้ทางเครือข่ายฯ ยังพบว่ามีอีกหลายร้านที่เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 กำลังเตรียมกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง อาทิ ร้านดังย่านเกษตรนวมินทร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.โคกคราม เป็นต้น”นายธีรภัทร์
ด้านนายคำรณ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ห่วงใยต่อกรณีสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการกลับมาเปิดใหม่ของร้านดังกล่าว ว่าดำเนินการได้อย่างไร และขอให้บังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง2.เร่งตรวจสอบสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการทั่วประเทศว่า ปัจจุบันมีสถานประกอบการใดที่ถูกสั่งปิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.22/2558แล้วฝ่าฝืนคำสั่งกลับมาเปิดใหม่ เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
3.จากข้อมูลที่เครือข่ายทราบ บรรดาผู้ประกอบการมักอ้างถึงบุคคลระดับสูง ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ว่า “เคลียร์แล้ว” “นายโอเคแล้ว”สามารถเปิดได้ จึงขอให้มีการตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมาย เรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ และ4.ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงร้านเหล้าผับ บาร์ ช่วยกันเฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมถึงรายที่มีคำสั่งปิดไปแล้ว แอบกลับมาเปิดหรือไม่ ต้องช่วยกันแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือแจ้งมาได้ที่เพจ Alcohol watch