ฉีกหน้าตำรวจ!กมธ.กฎหมายฯเผยผลตรวจสอบคดี ‘น้องชมพู่’ ไม่พบร่องรอยถูกข่มขืน เชิญรองผบ.ตร.-หมอนิติเวชชี้แจง ติงสื่อเสนอข่าวชี้นำ

 

ที่รัฐสภา วันที่8ก.ค.63 นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน  สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวผลการประชุม ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน กรณีขอให้ตรวจสอบการใช้หลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการสืบสวน สอบสวนคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร สรุปว่า ไม่พบอาหารในกระเพาะอาหาร ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยบาดเจ็บที่สามารถทำให้ถึงแก่ความตายได้(พบเพียงรอยขูดขีด) ไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจากมีความสมบูรณ์ของเยื่อพรหมจารี และมีการสรุปเหตุแห่งการตายว่าไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากศพเน่าและไม่พบร่องรอยที่ทำให้บาดเจ็บจนเสียชีวิต

 

ทั้งนี้จากการชันสูตรในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 คาดว่าเสียชีวิตประมาณ 2 วันก่อนชันสูตร คือประมาณวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ดังนั้น กมธ.จึงเห็นว่าการสอบสวนควรให้นำหลักทางนิติเวชและนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญแห่งคดีมาประกอบการพิจารณาสืบสวนสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

นายสิระ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าวันพุธ ที่ 15 ก.ค.นี้ ทางกมธ.จะเชิญพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งรับผิดชอบคดี รวมทั้งหมอที่ทำการชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กมธ.ว่าตำรวจกำลังทำอะไรกันอยู่ มีการตั้งธงหรือไม่ หรือต้องการหาแพะหรือไม่ ซึ่งขณะนี้สื่อที่ลงไปทำข่าวในพื้นที่ มีการนำเสนอข่าวแบบชี้นำ ขายข่าว จนทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเสียหาย เพราะถูกตำรวจในพื้นที่ไปไล่ตรวจดีเอ็นเอ

 

“ขณะที่มีอดีตนายตำรวจซึ่งเป็นนักสืบก็ไปชี้นำคดีอีกสร้างแรงกดดันทำให้ตำรวจในพื้นที่ทำคดีออกมาในรูปแบบที่เหมือนมีธง ผมจึงอยากรู้ว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังทำอะไรกันในฐานะประธานกมธ.จะปฏิรูปกระบวนการสอบสวนตำรวจไม่ให้มีธงในลักษณะนี้อีก”นายสิระ กล่าว

 

ด้าน นพ.ภาณุวัฒน์ ชุติวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาลจุฬาฯ ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. กล่าวว่า จากผลการชันสูตรของแพทย์ในครั้งที่ 1 และ 2 ต่างเห็นตรงกันว่าไม่แตกต่างกัน เนื่องจากพบว่าไม่ได้มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย และไม่มีบาดแผลจากการทารุณกรรมทางเพศ แต่มีร่องรอยบาดแผลบริเวณใกล้เคียงกับอวัยวะเพศ ซึ่งต้องยอมรับว่าสาเหตุการตายนั้นยังระบุไม่ได้ เพราะศพเน่ามาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้บอกความจริงได้ไม่หมด

About The Author