ผบช.ภ.3สั่งเด้งผบก.อุบลฯเข้ากรุ30วัน ทำตัวกร่างไม่ให้ความร่วมมือคัดกรองโรค ด่ากราดลั่นสนามบินฯ พร้อมตั้งกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2563 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้ลงคำสั่งด่วนที่สุด ที่ 0018.112/2517 ให้ พล.ต.ต.รณกร ฤทธิรงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี (ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่สังกัดเดิม มีกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ยังลงนามคำสั่งที่ 706/2563 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติราชการในภาพรวมของตำรวจภูธรภาค 3 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 72 (3) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 7/2559 ลงวันที่ 5 ก.พ.2559 จึงให้ พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผู้บังคับการประจำตำรวจภูธรภาค 3 (ผบก.ประจำบช.ภ.3) รักษาราชการในตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี อีกหน้าที่หนึ่งโดยไม่ขาดจากตำแหน่งและหน้าที่สังกัดเดิม มีกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีผู้มาดำรงตำแหน่งตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งให้ พล.ต.ต.รณกร ไปช่วยราชการที่ศปก.ภ.3 ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้ในโลกโซเชียล ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงจังหวัดอุบลราชธานีที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร มาลงที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการคัดกรองการแพร่เชื้อไวรัสโควิด -19 เหตุเกิดวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารทุกคนต้องกรอกเอกสารระบุรายละเอียด ข้อมูลส่วนตัว สถานที่จะเดินทางไป ซึ่งมาตรการนี้ใช้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่นายตำรวจคนดังกล่าวไม่ยอมกรอกข้อมูล แสดงอาการหงุดหงิด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่หญิงสอบถามถึงสถานที่เดินทางมาและสถานที่จะไปพักในจังหวัดอุบลฯ แถมยังด่ากราดลูกน้องที่มาคอยรับดังลั่นสนามบิน สร้างความแตกตื่นให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวถึงคำสั่งย้าย พล.ต.ต.รณกรไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.3 ว่า ได้ออกคำสั่งให้มาช่วยราชการตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา และให้มารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. พร้อมทั้งได้แต่งตั้ง พล.ต.ต.ภาณุ บูรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 ซึ่งรับผิดชอบ จ.อุบลราชธานีกับ จ.อำนาจเจริญ และรับผิดชอบงานจเร ของ บช.ภ.3 ให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อที่จะได้สะดวกแก่ผู้ตรวจสอบและผู้ที่จะให้ปากคำต่างๆ ก็ให้ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี มาช่วยราชการก่อน
“หลักฐานต่างๆ ยังไม่ชัดเจน ก็ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่ไปทำการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเรื่องที่ว่าจะปกป้องช่วยเหลือกันนั้น ทุกอย่างต้องว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง หากตรวจพบกระทำผิดตามข้อกล่าวหาจริงๆ เราก็ลงโทษเลย แต่ตอนนี้เป็นข่าวก็ต้องตรวจสอบ ฉะนั้นต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกคน” พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าว