คดีตัวอย่าง!ศาลจังหวัดอ่างทองสั่งจำคุก3เดือนไม่รอลงอาญา8วัยรุ่นก่อเหตุบุกทำร้ายคู่อริในโรงพยาบาลต่อหน้าตำรวจ-พยาบาล

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562 นายโกศลวัฒน์  อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีวัยรุ่น 2 กลุ่มยกพวกไปทำร้ายกันที่โรงพยาบาลอ่างทอง สาเหตุเนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มไปเที่ยวที่สถานบันเทิง ก่อนที่จะมีเรื่องทำร้ายร่างกายกันได้รับบาดเจ็บแล้วมารักษาตัวที่ รพ.อ่างทอง แต่คู่อริไม่ยอมตามมาหาเรื่องคู่กรณีถึงหน้าห้องฉุกเฉินอุกอาจ ต่อหน้าต่อตาตำรวจและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมาศาลจังหวัดอ่างทองอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1827/2562 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดอ่างทอง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนิรัณดร์ สูงปานเขา กับพวกรวม 8 คน จำเลยในความผิดฐานร่วมกันทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะฯ และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ในเวลากลางคืน

 

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ศาลจังหวัดอ่างทองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 8 คน คนละ 6 เดือน จำเลยทั้ง 8 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ 3 เดือน พฤติการณ์แห่งคดีเป็นการทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลอันเป็นสาธารณสถานที่มีไว้สำหรับรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย ผู้ใดไม่ควรจะล่วงละเมิดเข้าไปทำลายความสงบเรียบร้อย เหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยรวม ไม่สมควรรอการลงโทษให้จำคุก 3 เดือนไม่รอลงอาญา คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่ศาลมีคำพิพากษาไม่รอลงอาญา “เกเร กร่างให้สุด หยุดที่เรือนจำ” ฉะนั้นหยุดตีกันในโรงพยาบาล ส่วนคดีอื่นๆที่มีโทษหนักกว่านี้ผลคดีจะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป

 

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดอ่างทองมีคำพิพากษาจำคุก 6 เดือน วัยรุ่น 8 คนที่ก่อเหตุบุกทำร้ายคู่อริในโรงพยาบาลอ่างทอง ต่อหน้าตำรวจ หมอ และพยาบาล ซึ่งศาลสั่งลงโทษผู้ก่อเหตุเป็นคดีตัวอย่างโดยไม่สมควรให้รอลงอาญา เชื่อว่าจากนี้จะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นในสถานพยาบาลอีก เพราะเป็นคดีอาญา ยอมความกันไม่ได้ ทางกระทรวงสาธารณสุขนอกจากจะวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มแล้ว ทั้งกล้องวงจรปิด ยังการประสานกับท้องถิ่น ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ร่วมกันดูแล เพื่อไม่ให้มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นในโรงพยาบาล หากมีการทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลโทษยิ่งหนักขึ้นอีก

 

About The Author