แต่งตั้งตำรวจอย่างไร ไม่ให้เปิดบ่อน ตู้ม้า อบายมุข ส่งส่วย!-พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
แต่ละวันเดือนปีที่ผ่านไป ซึ่งรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกคำสั่งตั้งกรรมการปฏิรูปตำรวจคณะต่างๆ แม้กระทั่งล่าสุดฉบับที่ 203/2562 เมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา
ถูกประชาชนมองว่า เป็นอาการ ละล้าละลัง ไม่เร่งแก้ปัญหาและ ปฏิรูปให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเร็ว
สร้างความเสียหายต่อสังคม รวมทั้งก่อให้เกิดความทุกข์ระทมและ ความอยุติธรรม ต่อประชาชนโดยเฉพาะคนยากจนอย่างแสนสาหัส
ปัญหาตำรวจที่สำคัญและร้ายแรงยิ่งในปัจจุบันก็คือ ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอาชญากรรมที่เกิดขึ้นสารพัดมากมาย ไม่สามารถแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ง่ายๆ
ทำลายความเป็น “นิติรัฐ” หรือ “รัฐประชาธิปไตย” ที่ปกครองโดยกฎหมายของไทยลงอย่างย่อยยับ!
เพราะประชาชนแต่ละคนที่ขึ้นไปบนสถานีเพื่อแจ้งความ มักถูกตำรวจพูดและอ้างเหตุผลโน่นนี่เพื่อที่จะได้ ไม่ต้องสอบสวน หรือ ประวิงการสอบสวน เอาไว้
หรือรับแจ้งแล้ว แต่ก็ไม่ยอมบันทึกเลขคดีอาญาเข้าสารบบเป็นหลักฐานให้!
จะได้ไม่ต้องรายงานเป็น “ข้อมูลอาชญากรรมประจำเดือน” ตามที่ผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ สั่งกำชับไว้ว่า ให้ช่วยกัน ลดสถิติคดี
เพื่อที่หัวหน้าสถานีและจังหวัด จะได้ไม่ถูกตำหนิว่าป้องกันอาชญากรรมรักษาความสงบในพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากตนเองปล่อยให้มีแหล่งอมายมุขผิดกฎหมายเกิดขึ้นมากมาย
อาจถูกสั่งย้าย เปลี่ยนให้คนใหม่ที่ คุมตัวเลขได้ดีกว่า มาทำหน้าที่แทน
อย่างเช่นในจังหวัดกาญจนบุรี มีคดีขับรถประมาทชนรถอื่นเสียหายเกิดอันตรายแก่กายเรื่องหนึ่งซึ่งเหตุเกิดแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2561 คดีมีอายุความ 1 ปี และผู้ต้องหาคือนายธีรเดช สุไตทอน หลบหนี!
แต่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง กลับ รับคำร้องทุกข์ดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายในวันที่ 5 มีนาคม 2562
หลังเกิดเหตุถึง “เจ็ดเดือน”
และสรุปสำนวนส่งให้อัยการสั่งคดีเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ก่อนครบกำหนดอายุความวันที่ 9 ส.ค.62 เพียง 3 วัน
ตำรวจกะให้คดีไปขาดอายุความในมือของ “อัยการ”
อัยการไทยเมื่อได้รับสำนวนจากตำรวจแบบนี้ ก็ตาลีตาเหลือก! ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าต้อง รีบสั่งฟ้อง แจ้งให้ตำรวจสืบจับผู้ต้องหามาฟ้องก่อนสิ้นอายุความ สามวัน นั้น
ซึ่งปัจจุบันคดีนี้ได้ขาดอายุความไปเรียบร้อยแล้ว!
อัยการไม่ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้อง และผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการชดใช้ทางแพ่งใดๆ ได้แต่นั่งแค้นใจ
นี่คือปัญหางานสอบสวนที่เลวร้ายของประเทศไทย ที่ยังไม่มีใครคิดแก้ไขหรือปฏิรูปแต่อย่างใด?
ปัจจุบันการประเมินผลการทำงานของตำรวจแต่ละหน่วย ตั้งแต่สถานี กองบังคับการ กองบัญชาการ รวมไปถึงตำรวจแห่งชาติ ที่ผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งสื่อมวลชนหลายคนพูดกันว่า ประสบความสำเร็จอย่างดีตามตัวชี้วัดทุกเรื่อง จับโน่น จับนี่ ไม่มีหน่วยใดไม่ผ่านการประเมินเลยนั้น
ประชาชนหลายคนได้ยินได้ฟังแล้ว เห็นเป็นเรื่อง “ขำๆ”!
แค่บ่อนการพนันและตู้ม้าสารพัด รวมทั้งสถานเริงรมย์ผิดกฎหมายทำลายเด็กเยาวชน แหล่งเพาะอาชญากรรมและยาเสพติด ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ มากมาย ซึ่งฝ่ายทหารและกรมการปกครองต้องไป ตรวจจับแทนตำรวจ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ สารพัดหน่วย ตลอดเวลากว่าห้าปี!
รวมทั้งกรณี เสือ ดุสิต กับพวก ช่วยราชการ ด้วยการ ปล้นบ่อนนครบาล ย่านบางเขนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
และล่าสุด ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ก็ได้บุกไปจับ ตู้ม้าและตู้สล๊อตการพนันออนไลน์ ที่ตั้งมอมเมาเยาวชนอยู่มากมายหลายสิบตู้ในตลาดบางกะปิ
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นตัวชี้วัดอย่างดีในเรื่อง ประสิทธิภาพการทำงานและความสุจริต ของหัวหน้าสถานีและ นายพลตำรวจผู้รับผิดชอบ ที่มีอยู่มากมายหลายระดับ?
ก็ไม่ทราบว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้หรือไม่ว่า บ่อนการพนันและแหล่งอบายมุขผิดกฎหมายที่มอมเมาเด็กและเยาวชนเหล่านี้เปิดอยู่ได้ด้วยการ “จ่ายส่วย” ให้ตำรวจผู้รับผิดชอบ ส่งเป็นทอดๆ ขึ้นไปด้วยกันทั้งสิ้น
แต่ตำรวจผู้ทุจริตต่อหน้าที่ ทรยศต่อประชาชน เหล่านี้
ไม่เคยมีใครไม่ว่าระดับใดถูกดำเนินคดีอาญา หรือ “แม้กระทั่งลงโทษทางวินัย” ตามที่ท่านได้สั่งคาดโทษไว้ในคำสั่ง คสช.หลายฉบับแม้แต่คนเดียว?
ซ้ำหลายคนยังได้รับการแต่งตั้ง “เลื่อนตำแหน่ง” อย่างรวดเร็ว ในกลุ่มที่อ้างว่าเป็นพวกเก่ง ดี มีความสามารถ?
เจริญก้าวหน้าเป็น “ผู้บังคับบัญชา” ตำรวจที่อาวุโสทำงานมานานกว่าด้วยความสุจริตกันมากมายอีกด้วย!.
ที่มา: ไทยโพสต์ คอลัมน์: เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: Monday, September 02, 2019